กฎหมายการลงทุนฉบับใหม่ของเวียดนามมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ?

POST ON 26 มกราคม 2021

กฎหมายการลงทุนฉบับใหม่ของเวียดนามมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ?

“รู้กฎ” กับศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในเวียดนาม

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย

กฎหมายการลงทุนฉบับใหม่ของเวียดนามมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ?

สภาแห่งชาติเวียดนามได้อนุมัติกฎหมายการลงทุนฉบับใหม่ (กฎหมายการลงทุนปี ค.ศ. 2020) เพื่อใช้แทนฉบับเดิม (กฎหมายการลงทุนปี ค.ศ. 2014) โดยเริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา กฎหมายการลงทุนฉบับใหม่นี้มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญหลายประการที่นักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติควรจะต้องศึกษาข้อมูลก่อนมาลงทุน ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในเวียดนาม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอยขอสรุปสาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าว เพื่อให้นักลงทุนไทยได้ศึกษาในเบื้องต้น ดังนี้

1. การเข้าสู่ตลาดและเงื่นไขการลงทุนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ กฎหมายการลงทุนปี ค.ศ. 2020 กำหนดให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้าสู่ตลาดได้ภายใต้เงื่อนไขเดียวกันกับนักลงทุนเวียดนาม ยกเว้นสาขาที่รัฐบาลเวียดนามมีประกาศกำหนดให้เป็นสาขาการลงทุนที่มีเงื่อนไข อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีช่วงเวลาที่
แน่ชัดว่ารัฐบาลเวียดนามจะประกาศรายการสาขาการลงทุนที่มีเงื่อนไขเมื่อใด ปัจจุบัน มีเพียงเงื่อนไขทางการลงทุน (investment conditions) สำหรับนักลงทุนต่างชาติ ของกระทรวงการวางแผนและการลงุทนเท่านั้น

2. สาขาการลงทุนที่รัฐบาลเวียดนามส่งเสริมและให้สิทธิประโยชน์ ประกอบด้วย

          (1) การศึกษาระดับวิทยาลัย

          (2) การผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์และเภสัชกรรม

          (3) การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมสนับสนุนในรายการที่รัฐบาลเวียดนามส่งเสริมการพัฒนา ตามที่ระบุในกฤษฎีกา 111/2015/ND-CP ปี ค.ศ. 2015

          (4) การผลิตสินค้าและบริการที่ส่งเสริมการเข้าร่วมห่วงโซ่มูลค่า

          (5) เคหะชุมชน (social housing)

          (6) startup ด้านนวัตกรรม

          (7) การวิจัยและการพัฒนา

          (8) การสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

          (9) co-working space สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

โครงการที่จะได้รับสิทธิพิเศษและการส่งเสริมการลงทุนตามกฎหมายการลงทุน ค.ศ. 2020 ได้แก่

          (1) การสร้างศูนย์นวัตกรรม และศูนย์วิจัยและพัฒนา ที่มีมูลค่าการลงทุน 3 ล้านล้านเวียดนามด่ง (ประมาณ 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีการเบิกจ่ายงบการลงทุน 1 ล้านล้านเวียดนามด่ง (ประมาณ 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายใน 3 ปีแรกนับตั้งแต่ได้รับใบจดทะเบียนการลงทุน

          (2) การสร้างศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติ ภายใต้มตินายกรัฐมนตรีเวียดนาม

          (3) การลงทุนในสาขาที่ได้รับการส่งเสริมเป็นพิเศษ ที่มีมูลค่าการลงทุน 30,000 ล้านล้านเวียดนามด่งขึ้นไป (ประมาณ 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีการเบิกจ่ายงบการลงทุน 10,000 ล้านล้านเวียดนามด่ง (ประมาณ 430 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายใน 3 ปีแรกนับตั้งแต่ได้รับใบจดทะเบียนการลงทุน

ในขณะที่ สาขาการลงทุนที่จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษและไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ได้แก่

          (1) การทำเหมืองแร่

          (2) การผลิตหรือการค้าสินค้าและบริการที่ถูกเรียกเก็บภาษีสรรพสามิต (ยกเว้นการผลิตรถยนต์ เครื่องบิน และเรือ)

          (3) ที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ (commercial housing)

          (4) โครงการที่ได้รับใบจดทะเบียนการลงทุนหรือเอกสารอนุมัติการลงทุนอื่น ๆ ที่ออกให้ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563

3. เปลี่ยนสัดส่วนการเป็นเจ้าของกิจการของนักลงทุนที่ถือว่าเป็นชาวต่างชาติจากร้อยละ 51 เป็น
มากกว่าร้อยละ 50
ของทุนจัดตั้ง  

4. เงื่อนไขเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งชาติและการป้องกันประเทศ โครงการลงทุนและการดำเนินธุรกิจอาจถูกหยุดชั่วคราวหรือยุติหากการดำเนินการนั้นเป็นอันตรายหรืออาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงแห่งชาติและการป้องกันประเทศ

5. กำหนดแนวทางการอนุมัติการซื้อและการควบรวมกิจการ (Merge and Acquisition: M&A) ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยส่วนหนึ่งของกฎหมายระบุว่า การโอนถ่ายหุ้นหรือเงินทุนระหว่างนักลงทุนต่างชาติหรือ
นักลงทุนซึ่งถือว่าเป็นต่างชาติที่ไม่ได้ก่อให้เกิดการเพิ่มขึ้นของการถือครองสุทธิในบริษัท จะไม่ได้รับการอนุมัติให้ทำ M&A

6. ลดการสนับสนุนของรัฐบาลในโครงการขนาดใหญ่ กฎหมายฉบับใหม่ไม่ได้กำหนดความรับผิดชอบของรัฐบาลที่จะต้องค้ำประกันภาระหนี้ของรัฐวิสาหกิจ หรือค้ำประกันการใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

7. การยุติโครงการลงทุนขึ้นอยู่กับการไม่บังคับตามเจตนาลวงของคู่กรณี (Sham Transaction) กฎหมายการลงทุนฉบับใหม่อนุญาตให้หน่วยงานที่มีอำนาจของเวียดนามสั่งยุติการลงทุนได้ หากพบว่า
การดำเนินธุรกิจนั้นเข้าข่ายไม่บังคับตามเจตนาลวงของคู่กรณี (sham transaction) ตามที่กำหนดในประมวลกฎหมายแพ่ง ปี ค.ศ. 2015

8. การคัดเลือกนักลงทุน กฎหมายได้กำหนดแนวทางการคัดเลือกนักลงทุน และกำหนดกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่จะปรับใช้สำหรับกรณีต่าง ๆ ดังนี้

         (1) การประมูลราคากรรมสิทธิ์ที่ดินตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ดิน

         (2) การประมูลเพื่อคัดเลือกนักลงทุนตามข้อกำหนดของกฎหมายการประมูล

         (3) การยอมรับนักลงทุนตามข้อกำหนดของกฎหมายการลงทุน

9. การกำหนดเวลาดำเนินกิจการ กฎหมายฉบับใหม่อนุญาตให้นักลงทุนสามารถเปลี่ยนเวลาการเริ่มดำเนินกิจการของโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติในหลักการแล้วเป็นไม่เกิน 24 เดือน ยกเว้นกรณีต่าง ๆ ดังนี้

         (1) รัฐบาลส่งมอบที่ดินล่าช้า

         (2) มีคำร้องขอจากหน่วยงานรัฐบาล

         (3) ความล่าช้าของขั้นตอนการบริหารจัดการของรัฐ

         (4) การเปลี่ยนแผนแม่บทของรัฐบาล

         (5) มีการเปลี่ยนวัตถุประสงค์ที่ระบุในการอนุมัติหลักการ

         (6) มีการเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ในการอนุมัติหลักการ

         (7) มีการเพิ่มการลงทุนอย่างต่ำร้อยละ 20 ซึ่งทำให้ขนาดการลงทุนเปลี่ยนไป

ทั้งนี้ สำหรับกรณีข้างต้น จะได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนเวลาเริ่มดำเนินกิจการได้มากกว่า 24 เดือน

          10. โครงการที่จะไม่ได้รับอนุญาตให้ขยายขนาดการดำเนินกิจการ ได้แก่ โครงการที่ใช้เทคโนโลยีล้าสมัย ส่งผลกระทบต่อมลพิษและสิ่งแวดล้อม หรือใช้ทรัพยากรอย่างหนัก

          11. อำนวยความสะดวกต่อธุรกิจ startup ต่างชาติ โดยธุรกิจ startup ต่างชาติที่รวมกับธุรกิจ startup ขนาดกลางและขนาดเล็กด้านนวัตกรรม หรือกองทุน startup ด้านนวัตกรรม ไม่จำเป็นต้องมีโครงการลงทุน และไม่จำเป็นต้องมีใบรับรองจดทะเบียนการลงทุน สำหรับขั้นตอนเพื่อให้ได้รับการรับรองว่าเป็นธุรกิจ startup ขนาดกลางและขนาดเล็กด้านนวัตกรรมได้ระบุไว้ในกฎหมายการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก ปี ค.ศ. 2017 (2017 Law on Assistance for Small and Medium-Sized Enterprises)

สามารถดาวน์โหลดกฎหมายฉบับเต็มโดย scan QR Code ด้านล่างนี้

ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง



ดูบทความทั้งหมด

THAIBIZ VIETNAM

THAILAND BUSINESS INFORMATION CENTER

ยอดผู้เข้าชม

1

กำลังเข้าชมขณะนี้

201949

เข้าชมทั้งหมด