นครโฮจิมินห์เร่งกระบวนการก่อสร้างรถไฟฟ้าเพิ่มอีก 3 สาย ด้วยมูลค่ารวมกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายว่านครโฮจิมินห์จะมีรถไฟใต้ดินทั้งหมด 8 สาย รถรางไฟฟ้า (Tramway) 1 สาย และรถไฟรางเดี่ยว (monorail) 2 สาย ระยะทางรวม 220 กิโลเมตร มูลค่าการลงทุน 26 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปัจจุบัน โครงการรถไฟฟ้าสาย 1 (ตลาด Ben Thanh – สวนสนุก Suoi Tien) มีความคืบหน้าร้อยละ 98 และคาดว่าจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 ในขณะที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าสาย 2 (ตลาด Ben Thanh – Tham Luong) ได้ภายในปี 2568
โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สายใหม่ มีรายละเอียด ดังนี้
1. รถไฟฟ้าสาย 5 ระยะที่ 1 (สี่แยก Bay Hien เขต Tan Binh – สะพาน Sai Gon) ความยาว 8.89 กิโลเมตร มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 40.07 ล้านล้านด่ง (กว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยได้รับการสนับสนุนเงินทุนจาก รัฐบาลสเปน, Asian Development Bank (ADB), European Investment Bank (EIB) และ German Development Bank (KfW) ทั้งนี้ หน่วยงาน Management Authority for Urban Railways (MAUR) ของนครโฮจิมินห์ และคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ ได้เสนอรายงานศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการฯ และเอกสารประมาณการต้นทุนในการจ้างที่ปรึกษาเพื่อตรวจสอบโครงการฯ ไปยังกระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนามเพื่อพิจารณาแล้ว
2. รถไฟฟ้าสาย 3a ระยะที่ 1 (ตลาด Ben Thanh – High-tech Medical Zone เขต Binh Tan) ความยาว 11 กิโลเมตร พร้อมด้วยสถานีใต้ดิน 11 แห่ง มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 47.8 ล้านล้านด่ง (กว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยคาดว่าจะใช้เงินกู้จาก Japan International Cooperation Agency (JICA) ทั้งนี้ คณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ ได้เสนอแผนการลงทุนโครงการฯ ไปยังกระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนามตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2559 แต่ยังไม่ได้รับอนุมัติจากนายกรัฐมนตรี โดยสาเหตุของความล่าช้าเนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องโครงสร้างเงินทุน อัตราการลงทุน การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของญี่ปุ่น และวงเงินกู้ยืมของนครโฮจิมินห์ โดย MAUR จะหารือกับ JICA ต่อไปเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการผ่อนคลายเงื่อนไขอัตราเงินกู้ดอกเบี้ยแบบขั้นบันได และพิจารณาใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบผสมระหว่างอัตราขั้นบันไดและอัตราปกติ
3. รถไฟฟ้าสาย 2 ระยะที่ 2 (ตลาด Ben Thanh – เขตเมืองใหม่Thu Thiem) ความยาว 5.8 กิโลเมตร พร้อมสถานีใต้ดิน 6 แห่ง มูลค่าการลงทุนรวม 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้เงินสนับสนุนจาก รัฐบาลเกาหลีใต้ ทั้งนี้ MAUR จะหารือกับ Export-Import Bank of Korea (KEXIM) ต่อไปเพื่อเตรียมปรับเปลี่ยนโครงการสนับสนุนด้านเทคนิคให้สอดคล้องกับแผนของนครโฮจิมินห์ ในขณะเดียวกันจะจัดทำเอกสารโครงการสนับสนุนด้านเทคนิคเพื่อส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอนุมัติเพื่อขอรับการสนับสนุนในรูปแบบเงินช่วยเหลือ ภายในปี 2567
ที่มา: Vietnam Net เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2567
