เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2567 สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนามเปิดเผยว่า การเติบโต GDP ของเวียดนามเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.42 ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยภาคบริการมีสัดส่วนร้อยละ 43.35 ภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้างร้อยละ 36.44 และภาคการเกษตร การป่าไม้ และการประมงร้อยละ 11.55 ของ GDP ตามลำดับ การเติบโตของ GDP มีปัจจัยหลักจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน และประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ในส่วนของมูลค่าการค้ากับต่างประเทศในห้วง 6 เดือนแรกมีมูลค่าถึง 368,530 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.03 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยแบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 190,080 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.5) ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 178,450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 17) และได้ดุลการค้ากว่า 11,630 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม (ประมาณ 54,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และจีนเป็นตลาดนำเข้าใหญ่ที่สุดของเวียดนาม (67,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
อนึ่ง ในปี 2567 รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าให้ GDP ขยายตัวร้อยละ 6.5 อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 4-4.5 GDP per Capita อยู่ที่ประมาณ 4,700 – 4,730 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ สัดส่วนของอุตสาหกรรมแปรรูปและการผลิตต่อ GDP จะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 24 และอัตราการเติบโตเฉลี่ยของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อยู่ที่ร้อยละ 4-4.5
(ประมวลข้อมูลโดยศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในเวียดนาม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย)
ที่มา: สำนักข่าวท้องถิ่น วันที่ 2 กรกฎาคม 2567
