สำนักข่าวท้องถิ่นเวียดนามรายงานว่า ณ ปัจจุบัน ราคาทุเรียนที่รับซื้อขายส่งจากสวนทางภาคใต้ของเวียดนามอยู่ที่ 150,000-190,000 ดอง ต่อกิโลกรัม (ประมาณ 6.4-8.1 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อกิโลกรัม) ซึ่งสูงกว่าราคาของปีที่แล้วถึง 3 เท่าและสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยจะนำไปขายต่อกับคู่ค้าชาวจีนในราคา 170,000-290,000 ดอง ต่อกิโลกรัม
นอกจากนี้ ผู้ค้าหลายรายในนครเกิ่นเทอทางภาคใต้ของเวียดนามไม่สามารถจัดซื้อทุเรียนในปริมาณที่มากพอสำหรับตลาดในประเทศ เนื่องจากราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งชาวสวนทุเรียนประสงค์จำหน่ายทุเรียนในราคาสูงเท่านั้น ในขณะเดียวกัน ผู้ค้าบางคนในจังหวัดเตี่ยนซางทางภาคใต้ของเวียดนามยอมรับซื้อในราคาสูงและมีค่านายหน้าสำหรับผู้แนะนำสวนทุเรียนเพื่อส่งไปยังประเทศจีน
สาเหตุของสถานการณ์ข้างต้นเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของชาวจีนหลังจากที่จีนเปิดประเทศอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในขณะที่ทุเรียนที่ส่งออกเป็นทุเรียนนอกฤดูและมีผลผลิตน้อย แม้ว่าผู้ค้ารับซื้อส่งออกวันละหลายร้อยตัน แต่ก็เป็นเพียงแค่ร้อยละ 30-50 ของอุปสงค์ทั้งหมด
ข้อมูลของกรมวิชาการเกษตรและการพัฒนาชนบทของจังหวัดเตี่ยนซาง ระบุว่า ภายในต้นปี 2566 จะมีพื้นที่ปลูกทุเรียนประมาณ 20,000 เฮกตาร์ ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่อยู่ที่ 20-25 ตัน และมีเป้าหมายผลักดันให้พื้นที่ปลูกทุเรียนอีกร้อยละ 50 ได้รับรหัสพื้นที่เพาะปลูกจากจีน ซึ่งในอนาคตอันใกล้จะมีพื้นที่มากกว่า 13,000 เฮกตาร์ที่พร้อมสำหรับการการเพาะปลูกตามฤดู ซึ่งจะได้ผลผลิตเกือบ 300,000 ตัน
อนึ่ง ในปี 2565 มูลค่าการส่งออกทุเรียนอยู่ที่ประมาณเกือบ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการส่งออกไปยังประเทศจีนที่เดียวมีมูลค่าถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากทุเรียนสดชุดแรกถูกส่งไปยังประเทศจีนอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายน 2565 โดยทุเรียนเวียดนามมีความได้เปรียบในตลาดจีนหลายประการเมื่อเทียบกับประเทศผู้ส่งออกทุเรียนอื่น ๆ อย่างไทยและฟิลิปปินส์ เนื่องจากมีราคาถูกกว่า และใช้ระยะเวลาขนส่งไปยังจีนสั้นกว่าโดยใช้เวลาเพียง 1.5 วัน รวมทั้งเวียดนามยังสามารถส่งออกทุเรียนได้ตลอดทั้งปีไม่ใช่ระหว่างฤดูเพาะปลูกเท่านั้น[1]
ทั้งนี้ การเปิดประเทศของจีนได้ส่งผลให้ราคาของแก้วมังกรเวียดนามสูงขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน และเพิ่มขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา จีนมีสัดส่วนร้อยละ 90 ในตลาดการส่งออกแก้วมังกรของเวียดนาม
ที่มา: VnExpress วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566
https://e.vnexpress.net/news/industries/durian-prices-surge-as-demand-from-china-jumps-4566694.html
https://e.vnexpress.net/news/economy/dragon-fruit-prices-triple-4567208.html?utm_source=eVnExpress&utm_medium=social_Twitter&utm_campaign=sharelink_20230206&utm_content=Economy
[1] เวียดนามสามารถปลูกทุเรียนได้ในเวลาต่างกันตามแต่ละพื้นที่ เช่น เดือน มกราคม-พฤษภาคม เป็นช่วงฤดูเพาะปลูกของทุเรียนภาคตะวันตก ช่วงเดือนมกราคม-กรกฏาคม เป็นฤดูเพาะปลูกทุเรียนของภาคตะวันออก และช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน เป็นฤดูปลูกทุเรียนของจังหวัดในพื้นที่ราบสูงของเวียดนาม เช่น จ. Dak Lak จ. Dak Nong
