เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 ในการแถลงข่าวของรัฐบาล นาย Do Thang Hai รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MOIT) ได้กล่าวว่า สถานการณ์การจ่ายไฟฟ้าในภาคเหนือของเวียดนามดีขึ้นเป็นลำดับตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาและยืนยันจะไม่มีการขาดแคลนไฟฟ้าตั้งแต่บัดนี้จนถึงสิ้นปี 2566
รัฐมนตรีช่วยฯ ยอมรับว่าการจ่ายไฟฟ้าในเดือนพฤษภาคมและต้นเดือนมิถุนายนเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น อุทกวิทยาที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้อ่างเก็บน้ำไฟฟ้าพลังน้ำเหือดแห้ง และความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก จึงทําให้การไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ต้องตัดไฟฟ้าสลับกันในบางพื้นที่ในภาคเหนือ อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2566 แม้ว่าการจ่ายไฟฟ้าจะยังคงประสบปัญหาหลายประการเนื่องจากความร้อนที่ยาวนาน ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นแต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ตัวแทนของ MOIT ได้ขอให้ EVN ติดตามการทำงานของระบบไฟฟ้าและตลาดอย่างใกล้ชิดและมีแผนเชิงรุกอยู่เสมอเพื่อรับมือกับความยุ่งยากในการจ่ายไฟฟ้า
ข้อมูลจากหน่วยงานกำกับดูแลการไฟฟ้า MOIT ระบุว่า การไหลของน้ำสู่อ่างเก็บน้ำในภาคเหนือกำลังดีขึ้น เช่น ระดับน้ำในทะเลสาบ Son La, Lai Chau และ Tuyen Quang เป็นต้น ในปัจจุบันสูงกว่าระดับน้ำต่ำสุด 12-27 เมตร ซึ่งคาดว่าในเร็ววันนี้ ปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่ทะเลสาบจะเพิ่มขึ้น เพื่อรับรองว่า การจ่ายไฟฟ้าด้วยความต้องการเฉลี่ยวันละ 421-425 ล้าน kWh
นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยฯ ยังได้ระบุวิธีแก้ปัญหาเร่งด่วน 4 ประการเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในภาคเหนือ ได้แก่ การจัดหาเชื้อเพลิงที่เพียงพอ การแก้ไขปัญหาการพังทลายของโรงไฟฟ้าพลังความร้อน การดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และการเพิ่มการประหยัดพลังงาน โดยในระยะยาว เวียดนาม โดยเฉพาะภาคเหนือ จำเป็นต้องเร่งลงทุนในโครงการแหล่งพลังงานและโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าทั่วไปสำหรับการผลิต กิจกรรมทางธุรกิจและชีวิตประจำวันของประชากร
ที่มา: VnExpress วันที่ 4 กรกฎาคม 2566
