ข้อมูลจังหวัดโดยสังเขป
- จังหวัดดั๊กลั๊ก เป็น 1 ใน 2 จังหวัดที่มีการพัฒนามากที่สุดบนที่ราบสูงตะวันตกของเวียดนาม โดยได้รับการขนานนามว่า “เมืองแห่งกาแฟ” เนื่องจากปลูกและแปรรูปกาแฟโรบัสต้าเพื่อการส่งออกมากที่สุดในเวียดนาม นอกจากนี้ยังมีผลผลิตทางการเกษตรที่มีชื่อเสียงหลายอย่าง ได้แก่ อโวคาโด ทุเรียน (สายพันธุ์หมอนทอง, Ri6) พริกไทย ยางพารา ลิ้นจี่ และโกโก้
ข้อมูลพื้นฐานของจังหวัด
1.1 ข้อมูลที่ตั้งและเขตการปกครอง
จังหวัดดั๊กลั๊ก เป็น 1 ใน 5 จังหวัดบริเวณที่ราบสูงภาคตะวันตกของเวียดนาม โดยอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ 350 กิโลเมตร ห่างจากเมืองดาลัท จังหวัดเลิมด่ง (Da Lat City, Lam Dong Province) 210 กิโลเมตร ห่างจากเมืองเปลกู จังหวัดซาลาย (Pleiku City, Gai Lai Province) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจย่อยสายเหนือในโครงการระเบียงเศรษฐกิจอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Northern Sub Corridor, GMS Southern Corridor) 180 กิโลเมตร และห่างจากเมืองญาจาง จังหวัดคั้ญฮว่า ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง 185 กิโลเมตร
จังหวัดดั๊กลั๊กมีอาณาเขตทางด้านทิศเหนือติดจังหวัดซาลาย (Gia Lai Province) ทิศตะวันออกติดจังหวัดฟู้เอียน (Phu Yen Province) และคั้ญฮว่า (Khanh Hoa Province) ทางทิศใต้จังหวัดเลิมด่ง (Lam Dong Province) และจังหวัดดั๊กนง (Dak Nong Province) ส่วนด้านทิศตะวันตกติดกับประเทศกัมพูชา มีด่านชายแดนระดับชาติ 1 แห่ง คือ ด่านชายแดน Dak Rue อนุญาตให้คนเวียดนามและกัมพูชาผ่านแดนเท่านั้น
รูปที่ 1 แผนที่จังหวัดดั๊กลั๊ก
ที่มา: http://gis.chinhphu.vn/(2563)
ภูมิประเทศจังหวัดดั๊กลั๊กมีพื้นที่เป็นที่ราบสูง สูงจากระดับน้ำทะเล 400 – 800 เมตร โดยบริเวณอำเภอ Ta Dung สูงที่สุดของจังหวัดมีระดับความสูงที่ 1,982 เมตร มีแม่น้ำ Serepok และแม่น้ำ Krong No และเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำด่งนายอีกด้วย
จังหวัดมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ย 23 – 30 องศา ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยประมาณ 1,600 – 1,800 มิลลิเมตรต่อปี
จังหวัดดั๊กลั๊กมีพื้นที่ทั้งหมด 13,030.5 ตารางกิโลเมตร แบ่งพื้นที่การปกครองส่วนท้องถิ่นออกเป็น 15 พื้นที่ ประกอบไปด้วยเมืองบวนเมถ่วด (Buon Me Thuot City) เป็นศูนย์กลางราชการส่วนท้องถิ่น และอีก 14 อำเภอ
ปี 2564 จังหวัดดั๊กลั๊กได้รับการจัดอันดับ 34 จาก 63 จังหวัดในด้านความสามารถในแข่งขันระดับประเทศ (PCI) ขณะที่การจัดอันดับเกี่ยวกับความสามารถในการบริหารจัดการภาครัฐ (PAPI) ถือว่ามีคุณภาพปานกลางเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นของเวียดนาม
1.2 ทรัพยากร
1.2.1 ทรัพยากรธรรมชาติ
จังหวัดดั๊กลั๊ก มีที่ดินทั้งหมด 1,303,050 เฮกตาร์ เป็นพื้นที่เพื่อการเกษตรร้อยละ 48 พื้นที่ป่าไม้ร้อยละ 40 และพื้นที่เพื่ออยู่อาศัยและเพื่อประกอบธุรกิจอื่นๆ คิดเป็นร้อยละ 5 ที่ดินส่วนใหญ่เป็นดินภูเขาไฟที่มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การปลูกกาแฟ ทุเรียน โกโก้ และอโวคาโด
จังหวัดดั๊กลั๊กมีพื้นที่ป่าไม้และมีน้ำจืดค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ โดยมีแม่น้ำ 3 สายไหลผ่าน ได้แก่ แม่น้ำ Ba, Srepok และแม่น้ำด่งนาย รวมถึงมีอ่างเก็บน้ำอีกหลายแห่ง นอกจากนี้จังหวัดดั๊กลั๊กมีแร่ธาตุหลายชนิด เช่น ดินกระเบื้อง ดินอิฐ ตะกั่ว ฟอสฟอรัส ถ่านหิน หินปูน หินแกรนิต ทรายก่อสร้าง ทอง อัญมณี เป็นต้น
1.2.2 ทรัพยากรมนุษย์
ปี 2564 จังหวัดดั๊กลั๊ก มีประชากรทั้งหมด 1.91 ล้านคน โดยแรงงานที่มีอายุมากกว่า 15 ปีขึ้นไป 1.12 ล้านคน จังหวัดดั๊กลั๊กมีมหาวิทยาลัย 4 แห่งและวิทยาลัยอาชีวะอีก 2 แห่ง มีค่าแรงพื้นฐานอยู่ที่ 3.25 – 3.64 ล้านด่งต่อเดือน (139 – 156 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน) ตามกฎหมายแรงงานฉบับใหม่ (Decree No.38/2022/NĐ-CP) จังหวัดดั๊กลั๊กเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์สูง โดยประชากรร้อยละ 30 เป็นกลุ่มชาติพันธุ์แตกต่างกันถึง 47 กลุ่ม เช่น กลุ่มชาติพันธุ์ E De, M’Nong, Thai, Tay, Nung เป็นต้น
1.3 โครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมขนส่ง
ด้านการคมนาคมทางอากาศ จังหวัดดั๊กลั๊กมีสนามบิน Buon Ma Thuot (BMV) เป็นสนามบินภายในประเทศ โดยมีเที่ยวตรงจากกรุงฮานอย นครไฮฟอง นครดานัง นครโฮจิมินห์ จังหวัดทัญฮว้า (Thanh Hoa Province) และจังหวัดเหงะอาน (Nghe An Province)
ด้านการคมนาคมขนส่งทางน้ำ จังหวัดไม่มีท่าเรือ แต่อยู่ใกล้กับจังหวัดที่มีท่าเรือขนาดใหญ่ คือ จังหวัดคั้ญฮว่า
ด้านการคมนาคมขนส่งทางบก จังหวัดดั๊กลั๊กมีถนนทางหลวง ได้แก่ QL26, QL27, QL29, QL14, QL14C และทางหลวงสายเอเชีย AH17 เชื่อมไปยังจังหวัดอื่น
รูปที่ 2 ถนนหลวงในจังหวัดดั๊กลั๊ก
ที่มา: Google Map (2565)
ด้านนิคมอุตสาหกรรม จังหวัดดั๊กลั๊ก มีนิคมอุตสาหกรรม 2 แห่ง และเขตอุตสาหกรรมย่อยอีก 7 แห่ง โดยนิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญ ได้แก่
- 1. นิคมอุตสาหกรรม Hoa Phu พื้นที่ 331.73 เฮกตาร์
- 2. นิคมอุตสาหกรรม Phu Xuan พื้นที่ 325.6 เฮกตาร์
การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และโอกาสในการลงทุนทำธุรกิจ
2.1 สถานการณ์เศรษฐกิจ
ปี 2564 ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดดั๊กลั๊ก (GDP) คิดเป็นมูลค่า 94,834 พันล้านด่ง (4.05 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 5.1 แบ่งออกเป็นภาคการเกษตรร้อยละ 37 อุตสาหกรรมและก่อสร้างร้อยละ 16 และภาคบริการร้อยละ 42 (ภาษีสินค้าร้อยละ 5)
ด้านการเกษตร ป่าไม้ และประมง ปี 2564 มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 3.97 ปี 2564 จังหวัดดั๊กลั๊กมีพื้นที่เพื่อการเกษตรกรรม 627,000 เฮกตาร์ซึ่งมากที่สุดของประเทศเวียดนาม โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ใช้เพาะปลูกกาแฟโรบัสต้า 209,955 เฮกตาร์ ได้ผลผลิต 557,659 ตัน พริกไทยได้ผลผลิต 34,064 ตัน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 28,127 ตัน โกโก้ 1,812 ตัน และนอกจากนี้ยังมีการปลูกไม้ยืนต้นประเภทเครื่องเทศ สมุนไพร และอื่นๆ
ด้านการปลูกกาแฟ จังหวัดดั๊กลั๊กปลูกกาแฟมากที่สุดในประเทศเวียดนาม โดยเริ่มปลูกตั้งแต่สมัยเป็นอาณานิคมของประเทศฝรั่งเศส แต่เริ่มเป็นที่แพร่หลายปี 2473 ทั้งนี้ดั๊กลั๊กเคยเป็นที่ปลูกทั้งกาแฟโรบัสต้าและอาราบิก้า แต่เกิดโรคระบาดทำให้เหลือแต่ไว้เพียงสายพันธุ์โรบัสต้าที่ได้รับการพัฒนาต่อมาจนเป็นสินค้าส่งออกที่มีชื่อเสียงของเวียดนาม แต่ละปีมีการส่งออกกาแฟจากจังหวัดมากถึง 200,000 ตันไปมากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก เฉพาะที่จังหวัดดั๊กลั๊กมีมูลค่าการส่งออกกาแฟประมาณ 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม “กาแฟบวนมาถ่วด” ที่ปลูกมาตั้งแต่สมัยฝรั่งเศสและได้รับการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ มีการปลูกเหลือเพียง 13,600 เฮกตาร์ ได้ผลผลิตโดยเฉลี่ย 44,600 ตันต่อปี
นอกเหนือจากแปรรูปกาแฟเบื้องต้น กาแฟคั่วบด และกาแฟสำเร็จรูปแล้ว ผู้ประกอบการส่วนหนึ่งยังได้พัฒนากาแฟโรบัสต้าชนิดพิเศษ (Fine Robusta) เพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้า แม้จะมีผลผลิตเพียง 1,000 ตันต่อปี แต่มูลค่าสูงกว่าอย่างน้อยร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับกาแฟอื่นของจังหวัด
เมืองบวนมาถ่วด ได้รับการขนาดนามว่า เมืองแห่งกาแฟ จะจัดงานเทศกาลกาแฟร่วมทุก 2 ปี ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบธุรกิจกาแฟทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างมาก รวมถึงยังมีการแสดจากชนเผ่าต่างๆ ที่อาศัยอยู่บนที่ราบสูง และเป็นการแนะนำการท่องเที่ยวของภูมิภาคอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการจัดงาน Vietnam Specialty Coffee เพื่อส่งเสริมและแข่งขันด้านกาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) โดยกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนามมีแผนสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟพิเศษปี 2564 – 2573 โดยจังหวัดดั๊กลั๊กเป็นหนึ่งในแปดจังหวัดที่ได้รับการส่งเสริมเป็นพิเศษและมีแผนจะพัฒนาพื้นที่เพาะปลูกกาแฟพิเศษ 1,060 เฮกตาร์ ให้ได้ผลผลิต 620 ตันในปี 2568
ส่วนผลไม้ จังหวัดมีการเพาะปลูกไม้ยืนต้นบนพื้นที่ 36,450 เฮกตาร์ เกือบร้อยละ 60 ของพื้นที่ใช้ในการเพาะปลูกทุเรียนและอโวคาโด้ สำหรับทุเรียน สายพันธุ์ที่เริ่มมีการปลูกมาก คือ พันธุ์หมอนทอง (โดนา) ส่วนอโวคาดามีการพัฒนาและเพาะปลูกหลายสายพันธุ์ เช่น Booth, 034, Sap ล้วนแต่เป็นสินค้าส่งออก ปี 2564 ได้ผลผลิตทุเรียน 103,209 ตัน และอโวคาโด้ 82,120 ตัน นอกจากนี้จังหวัดยังมีการปลูกกล้วยได้ผลผลิต 50,914 ตัน ขนุน 26,889 ตัน เสาวรส 14,743 ตัน และแมคคาเดเมียอีก 4,146 ตัน
ส่วนการปลูกข้าวและพืชไร่ ได้ผลผลิตข้าวประมาณ 1 ล้านตัน มากที่สุดของกลุ่มจังหวัดที่ราบสูงภาคตะวันตก นอกจากนี้เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวโพด อ้อย และมันสัมปะหลัง
เนื่องจากอยู่บนที่ราบสูงไม่เหมาะแก่การประมงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จึงมีผลผลิตจากการประมงและเพาะเลี้ยง 27,200 ตัน ส่วนด้านการปศุสัตว์ จังหวัดดั๊กลั๊กมีการเลี้ยงสุกร 0.75 ล้านตัว (มากเป็นอันดับ 6), โคและกระบือรวมกันประมาณ 0.28 ล้านตัว, สัตว์ปีก 13.7 ล้านตัว
จังหวัดดั๊กลั๊กยังมีชื่อเสียงด้านการผลิตน้ำผึ้งเพื่อการส่งออกเนื่องจากพื้นที่กว่าครึ่งของจังหวัดเป็นป่า และมีการเพาะปลูกไม้ยืนต้นจำนวนมาก จากการสำรวจพบกว่ามีฝูงผึ้งกว่า 220,000 ฝูง สามารถผลิตน้ำผึ้งได้ประมาณ 20,000 ตันต่อปี (ร้อยละ 50 ของผลผลิตทั้งหมดของประเทศ) มูลค่าการส่งออก 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดที่สำคัญ คือ สหรัฐอเมริกา และประเทศในทวีปยุโรป
ด้านอุตสาหกรรมและก่อสร้าง ปี 2564 มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 17.98 โดยสินค้าอุตสาหกรรมที่สำคัญ ได้แก่ กาแฟแปรรูป กาแฟคั่วบด กาแฟสำเร็จรูป เม็ดมะม่วงหิมพานต์ แป้งมัน น้ำตาล ยางพาราแปรรูป พริกไทย ผลิตภัณฑ์จากผึ้ง เครื่องดื่ม เสื้อผ้า สินค้าแปรรูปจากไม้ ไม้อัด วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น
จังหวัดมีการพัฒนาเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดของกลุ่มจังหวัดที่ราบสูงภาคตะวันตก จากการสำรวจโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของจังหวัดมีศักยภาพสูงถึง 16,000 MW ส่วนพลังงานไฟฟ้าพลังงานลมมีศักยภาพการผลิตที่ 2,826 MW จากข้อมูลปี 2564 จังหวัดมีโครงการพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ทั้งหมด 10 โครงการได้กำลังผลิตไฟฟ้าเข้าสู่ระบบ มีกำลังการผลิตจากโรงงานรวม 960 MW และจากอาคารบ้านเรือนอีก 5,367 แห่งซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 648.9 MW ทั้งนี้จังหวัดดั๊กลั๊กกำลังขออนุมัติเพิ่มเติมอีก 42 โครงการ ส่วนพลังงานลม ได้เปิดใช้งานแล้ว 2 โครงการ มีกำลังการผลิตที่ 428.8 MW โดยรวมจังหวัดผลิตไฟฟ้าได้ถึง 4,681 ล้านกิโลวัตต์ โดยไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 45
ด้านบริการและการค้า ในปี 2564 มีมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.44 โดยมาจากการค้าปลีกเป็นหลัก ในด้านการท่องเที่ยว ปี 2564 มีผู้เดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดดั๊กลั๊กเพียง 0.41 ล้านคน และมีรายได้จากการท่องเที่ยว 355 พันล้านด่ง (15.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดหยุดชะงักเกือบตลอดทั้งปี 2564
แหล่งท่องเที่ยวหลักของจังหวัดเป็นการท่องเที่ยวชมธรรมชาติ เที่ยวเชิงเกษตร และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ได้แก่ น้ำตก Dray Sap – Dray Nur, พิพิธภัณฑ์กาแฟ Trung Nguyen, ไร่กาแฟ – โกโก้ หมู่บ้านกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ อ่างเก็บน้ำ Lak, Buon Don เป็นต้น นอกจากนี้ทุก 2 ปียังมีนักท่องเที่ยวและผู้สนใจกาแฟเดินทางมาที่จังหวัดดั๊กลั๊กเพื่อร่วมงานเทศกาลกาแฟจำนวนมากอีกด้วย ทั้งนี้จังหวัดดั๊กลั๊กมีการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งบนที่ราบสูงตะวันตก โดยมีโรงแรมระดับ 4 – 5 ดาวรองรับนักท่องเที่ยวในและต่างประเทศ
2.2 การค้าและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
ด้านการค้าระหว่างประเทศ ปี 2564 จังหวัดดั๊กลั๊ก มีมูลค่านำเข้าสินค้าและมูลค่าส่งออกสินค้าคิดเป็น 502 และ 1,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ
มูลค่าลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสะสมจนถึงปี 2564 รวมทั้งหมด 25 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 612.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ธุรกิจไทยมีการลงทุนในจังหวัดดั๊กลั๊ก ได้แก่
- โรงงานผลิตอาหารสัตว์ของบริษัท C.P. Vietnam จำกัด
- ซุปเปอร์มาร์เก็ต Go! Buon Ma Thuot
- MM Mega Market Buon Ma Thuot
2.3 อุตสาหกรรมที่ให้การส่งเสริมและสนับสนุนด้านการลงทุน
- โครงสร้างพื้นฐาน
- อุตสาหกรรมการเกษตรเทคโนโลยีขั้นสูง
- อุตสาหกรรมผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
- อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน
- อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
แหล่งข้อมูลอื่นที่ควรทราบ
1. เว็บไซต์ของรัฐบาลท้องถิ่นจังหวัดดั๊กลั๊ก: https://daklak.gov.vn/
2. รายชื่อโครงการสนับสนุนการลงทุน https://daklak.gov.vn/cac-du-an-keu-goi-dau-tu
3. เว็บไซต์ศูนย์ส่งเสริมการลงทุนจังหวัดดั๊กลั๊ก: http://ipc.daklakdpi.gov.vn/
4. เว็บไซต์ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดดั๊กลั๊ก: https://daktip.vn/
5. ข้อมูลเทศกาลกาแฟ : http://lehoicaphe.vn/
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
สภาประชาชนจังหวัดดั๊กลั๊ก (2565), ข้อมูลสถิติพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจังหวัดดั๊กลั๊ก ประจำปี 2564
สภาประชาชนจังหวัดดั๊กลั๊ก (2565), ข้อมูลพื้นฐานของจังหวัดดั๊กลั๊ก, สืบค้นจาก https://daklak.gov.vn/
กรมศุลกากรเวียดนาม (2565), รายงานการนำเข้าส่งออกจำแนกตามจังหวัด ปี 2021
Cục sở hữu trí tuệ (2565), Danh sách các chỉ đẫn địa lý đã được bảo hộ tại Việt Nam (Cập nhật đến tháng 6 năm 2022), retrieved from https://ipvietnam.gov.vn/chi-dan-dia-ly
Chính phủ Việt Nam (2565), Nghị định 38/2022/NĐ-CP về việc Quy định mức lương tối thiểu đối với người lao động làm việc theo hợp đồng lao động.
Sở Công thương tỉnh Đắk Lắk (2562), Công bố Quy hoạch phát triển gió tỉnh Đắk Lắk giai đoạn đến 2020, có xét đến năm 2030, retrieved from: https://socongthuong.daklak.gov.vn/news/tin-cong-thuong/cong-bo-quy-hoach-phat-trien-gio-tinh-dak-lak-giai-doan-den-2020-co-xet-den-nam-2030-402.html
Cổng thông tin điện tử Bộ Văn hóa, Thể thao và Du lịch (2565), Đắk Lắk: Tiếp sức cho du lịch phục hồi, Retrieved from https://bvhttdl.gov.vn/dak-lak-tiep-suc-cho-du-lich-phuc-hoi-20220728154347691.htm
Sở Thông tin và Truyền thông tỉnh Đắk Lắk (2561), Buôn Ma Thuột – Những đồn điền cà phê trăm năm, retrieved from: http://lehoicaphe.vn/-/buon-ma-thuot-nhung-on-ien-ca-phe-tram-nam
Báo Điện tử Đảng Cộng sản Việt Nam (2562), Đắk Lắk tiếp tục phát triển cà phê đặc sản, retrieved from http://dangcongsan.vn/kinh-te/dak-lak-tiep-tuc-phat-trien-ca-phe-dac-san-543506.html
Thủ tướng Chính Phủ (2561), Document No. 1110/TTg-CN về việc Đề án điều chỉnh, bổ sung quy hoạch tổng thể phát triển các khu công nghiệp tỉnh Đắk Lắk đến năm 2020
Bộ Nông nghiệp và Phát triển nông thôn (2564), Bộ Nông nghiệp và PTNT phê duyệt Đề án phát triển cà phê đặc sản Việt Nam giai đoạn 2021-2030, Retrieved from http://vukehoach.mard.gov.vn/News.aspx?id=2680
Công Thương (2565), Phát triển Đắk Lắk trở thành trung tâm năng lượng tái tạo khu vực Tây Nguyên, Retrieved from https://tapchicongthuong.vn/bai-viet/phat-trien-dak-lak-tro-thanh-trung-tam-nang-luong-tai-tao-khu-vuc-tay-nguyen-87360.htm
Đắk Lắk Điện tử (2564), Họp báo công bố tình hình phát triển kinh tế – xã hội năm 2021, Retrieved from https://baodaklak.vn/kinh-te/202112/hop-bao-cong-bo-tinh-hinh-phat-trien-kinh-te-xa-hoi-nam-2021-e3625cb/
Đắk Lắk Điện tử (2564), Cà phê đặc sản: Định vị chất lượng cho Cà phê Buôn Ma Thuột, Retrieved from https://socongthuong.daklak.gov.vn/index.php/vi/news/tin-thoi-su/ca-phe-dac-san-dinh-vi-chat-luong-cho-ca-phe-buon-ma-thuot-1251.html
Báo Gia Lai Online (2565), Sản xuất lúa gạo ở Đắk Lắk: Nhiều triển vọng để ra “biển lớn” (kỳ 1), Retrieved from https://baogialai.com.vn/channel/1622/202204/san-xuat-lua-gao-o-dak-lak-nhieu-trien-vong-de-ra-bien-lon-ky-1-5772307/
Sở Công thương Đắk Lắk (2564), Sản xuất và tiêu thụ nông sản Đắk Lắk, Retrieved from https://socongthuong.daklak.gov.vn/index.php/vi/news/hoat-dong-nganh-cong-thuong/san-xuat-va-tieu-thu-nong-san-dak-lak-2898.html
Sở Công thương Đắk Lắk (2564), Thị trường ong mật Đắk Lắk cần hướng đi mới trong thời gian tới, Retrieved from https://socongthuong.daklak.gov.vn/index.php/vi/news/hoat-dong-nganh-cong-thuong-34/thi-truong-ong-mat-dak-lak-can-huong-di-moi-trong-thoi-gian-toi-3209.html
Sở Công thương Đắk Lắk (2565), Đắk Lắk cần quan tâm phát triển công nghiệp năng lượng mới, Retrieved from https://socongthuong.daklak.gov.vn/index.php/vi/news/hoat-dong-nganh-cong-thuong/dak-lak-can-quan-tam-phat-trien-cong-nghiep-nang-luong-moi-3158.html
Đắk Lắk Điện tử (2564), Hướng đi nào để cà phê Đắk Lắk không chỉ là xuất thô? (kỳ 3), Retrieved from https://baodaklak.vn/kinh-te/202112/huong-di-nao-de-ca-phe-dak-lak-khong-chi-la-xuat-tho-ky-3-e8b1fa6/
Thông Tấn Xã Việt Nam (2564), Đắk Lắk phục hồi hoạt động du lịch, Retrieved from https://ncov.vnanet.vn/tin-tuc/dak-lak-phuc-hoi-hoat-dong-du-lich/235de233-f45f-429f-9f63-2efe54c40fae
Sở Nông Nghiệp & PTNT Tỉnh Đắk Lắk (2564), Hội nghị tổng kết công tác thủy sản năm 2021 và triển khai nhiệm vụ năm 2022, Retrieved from http://nnptnt.daklak.gov.vn/tin-tuc-su-kien/hoi-nghi-tong-ket-cong-tac-thuy-san-nam-2021-va-trien-khai-nhiem-vu-nam-2022.html