
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) ระบุว่า รายได้เฉลี่ยต่อเดือนของคนในวัยทำงานในฮานอยในไรมาสที่ 3 ของปี 2567 อยู่ที่ 10.7 ล้านดอง (ประมาณ 418 ดอลลาร์สหรัฐ) และงานวิจัย Vietnam Association of Real Estate Brokers ชี้ว่ารายได้ครัวเรือนต่อเดือนของแต่ละครัวเรือนรวมแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 21.4 ล้านดอง (836 ดอลลาร์สหรัฐ) อย่างไรก็ดี ราคาเฉลี่ยของอพาร์ทเมนท์ในกรุงฮานอยในปี 2567 มีราคาถึง 60- 70 ล้านดอง/ตร.ม. (2,345- 2,735 ดอลลาร์สหรัฐ/ตร.ม.) ดังนั้น หากต้องการซื้ออพาร์ทเมนท์ในฮานอย ผู้ซื้อต้องมีรายได้ต่อเดือนขั้นต่ำอยู่ที่ 45 – 210 ล้านดอง (1,760- 8,205 ดอลลาร์สหรัฐ)/ปี (ขึ้นอยู่กับพื้นที่) ซึ่งสูงกว่ารายได้ครัวเรือนเฉลี่ยประมาณ 2.3-10 เท่า จึงทำให้มีช่องว่างระหว่างรายได้เฉลี่ยกับราคาบ้านทำให้การถือครองอสังหาริมทรัพย์ในฮานอยเป็นไปได้ยากสำหรับครัวเรือนส่วนใหญ่ที่มีรายได้เฉลี่ยปานกลาง – สูง
การคำนวณดังกล่าวอิงตามราคาบ้านพักเฉลี่ยในแต่ละเขต โดยผู้ซื้อสามารถกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินได้ร้อยละ 70 ของมูลค่าบ้าน ในอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยร้อยละ 8 ต่อปี เป็นเวลา 20 ปี โดยยอดผ่อนชำระรายเดือนรวมไม่ควรเกินร้อยละ 40 ของรายได้ โดยเมื่อพิจารณาเป็นรายเขตแล้ว รายได้ขั้นต่ำในการซื้อบ้านราคาเฉลี่ย ในเขต Ha Dong, Long Bien, Nam Tu Liem, Bac Tu Liem และ Gia Lam จะสูงกว่ารายได้ครัวเรือนโดยเฉลี่ยประมาณ 2-3 เท่า ในขณะที่ในเขต Hoan Kiem, Hai Ba Trung, Tay Ho, Dong Da, Cau Giay และ Thanh Xuan จะสูงกว่ารายได้ครัวเรือนโดยเฉลี่ยประมาณ 3-8 เท่า
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษาของ Savills Hanoi บริษัทที่วิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ในหลายภูมิภาคประเมินว่า หากรายได้เฉลี่ยของครัวเรือนต่อปีในกรุงฮานอยอยู่ที่ประมาณ 250 ล้านดอง (9,775 ดอลลาร์สหรัฐ) และราคาเฉลี่ยของอพาร์ทเมนท์อยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านดอง (156,330 ดอลลาร์สหรัฐ) แต่ละครัวเรือนจะต้องออมเงินนานถึง 18 ปี โดยไม่ต้องใช้จ่ายจึงจะซื้อบ้านได้ โดยรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 6 ต่อปี ในขณะที่ราคาบ้านในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 17-20 ต่อปี ส่งผลให้การซื้ออสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันเป็นเรื่องยากมาก นอกจากนี้ ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ค่าครองชีพต่างเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ความสามารถในการออมทรัพย์ของคนเวียดนามลดลงอย่างต่อเนื่อง
(ประมวลข้อมูลโดยศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในเวียดนาม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย)
ที่มา: สำนักข่าวท้องถิ่นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568