
บรัษัท IBM เปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในเวียดนามที่ควรจับตามองในปี 2565 ซึ่งบริษัทต่าง ๆ นำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างแหล่งรายได้ใหม่ ได้แก่ (1) การใช้ AI ในการดูแลลูกค้าเพื่อให้ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล ทำให้ผู้บริโภคสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ค้าและผู้ให้บริการอย่างเต็มที่ผ่านการโต้ตอบกับผู้ช่วยเสมือนจริง (2) บทบาทของ AI ในการพัฒนาธุรกิจในมิติด้านความยั่งยืน ผ่านการวัดผล การรวบรวมข้อมูล การทำบัญชีคาร์บอน และพัฒนาการพยากรณ์และความยืดหยุ่นของระบบห่วงโซ่อุปทานให้แม่นยำยิ่งขึ้น (3) ต่อยอดศักยภาพ 5G ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาความก้าวหน้าในอุตสาหกรรม ตั้งแต่การถ่ายทอดสดผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตและการสื่อสารไปจนถึงเทคโนโลยีหุ่นยนต์ขั้นสูงและการผลิตขั้นสูง ตลอดจนการเชื่อมโยงและบริหารจัดการเครือข่าย (4) การประยุกต์ใช้ AI เพื่อลดต้นทุนทางธุรกิจโดยการพยากรณ์ปัญหาด้านไอทีก่อนที่จะเกิดขึ้น หรือ “AI for IT Operations” (AIOps) ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาในการวินิจฉัยปัญหาและลดการใช้แรงงาน และ (5) การใช้ AI ด้านความมั่นคง โดยเฉพาะด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการด้วย
แนวโน้มการใช้งาน AI ข้างต้นจะเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคผ่านการเข้าถึงสินค้า บริการ และข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และตามที่รัฐบาลเวียดนามได้ประกาศยุทธศาสตร์ชาติเพื่อการวิจัยและพัฒนาและการประยุกต์ใช้ AI จนถึงปี 2573 โดยมุ่งผลักดันให้เวียดนามเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมและ AI ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยตั้งเป้าหมายให้สามารถสร้าง AI Trademark และจัดตั้งศูนย์ Big Data และศูนย์ประมวลผลประสิทธิภาพสูง
ที่มา: Vietnam News วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565
https://vietnamnews.vn/economy/1141903/major-ai-trends-in-2022-forecast.html