
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 นาย Nguyen Van Duoc ประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ ได้หารือกับนาง Sarah Kemp รองประธานฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ บริษัท Intel[1] เกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือด้านเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะในสาขาปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
ในการหารือครั้งนี้ ประธานคณะกรรมการประชาชนฯ แสดงความตั้งใจที่จะส่งเสริมให้บริษัท Intel ขยายการลงทุนในนครโฮจิมินห์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือกับ Saigon Hi-Tech Park (SHTP) ในโครงการฝึกอบรมด้าน AI สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐและบัณฑิตจบใหม่ พร้อมคาดการณ์ว่าความร่วมมือกับ Intel จะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูงอื่น ๆ ในอนาคต
ประธานคณะกรรมการประชาชนฯ ยังได้ชื่นชมบทบาทของบริษัท Intel Vietnam ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบนิเวศด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รวมถึงการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของนครฯ และประเทศ โดยได้กล่าวถึงโอกาสใหม่ของนครโฮจิมิน์ภายหลังจากการควบรวมจังหวัดบิ่ญเซืองและจังหวัดบ่าเสียะ-หวุงเต่า ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการพัฒนาเชิงพื้นที่สำหรับโครงการใหม่ ๆ การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานระดับภูมิภาค และการยกระดับบทบาทของนครฯ ให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ นวัตกรรม โลจิสติกส์ และการเงินระดับชาติและภูมิภาค ตลอดจนเพิ่มศักยภาพในการร่วมมือกับประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะสหรัฐฯ ในด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง การศึกษา สาธารณสุข และพลังงานสะอาด เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ผู้แทนจากบริษัท Intel ได้เน้นย้ำถึงบทบาทของบริษัทฯ ในการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของเวียดนาม โดยแสดงความคาดหวังต่อรัฐบาลเวียดนามว่า สินค้าประเภทเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีขั้นสูงจะได้รับการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีในการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับเวียดนาม นอกจากนี้ บริษัท Intel เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีรายแรกที่ริเริ่มความร่วมมือรูปแบบภาครัฐและเอกชน (Public-Private Partnership: PPP) ในการฝึกอบรมบุคลากรด้าน AI ในเวียดนาม และยืนยันว่าบริษัทฯ พร้อมสนับสนุนการอบรมเจ้าหน้าที่ภาครัฐของนครฯ ด้านการประยุกต์ใช้ AI และจัดอบรมทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคต ทั้งนี้ บริษัทIntel ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง และแสวงหาโอกาสลงทุนในภาคพลังงานหมุนเวียน
นาย Kenneth Tse ผู้อำนวยการทั่วไปของบริษัท Intel Vietnam เปิดเผยว่า ในช่วง 20 ปีของการดำเนินกิจการในเวียดนาม บริษัทฯ ส่งออกผลิตภัณฑ์กว่า 4 ล้านล้านชิ้น คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนภาคการส่งออกของประเทศ นอกจากนี้ ภายในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เริ่มสายการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์แบบ “18A” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของบริษัทฯ ในเวียดนาม ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยยกระดับศักยภาพของเวียดนามในการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง และส่งเสริมการพัฒนาแรงงานทักษะสูงในสาขาเทคโนโลยี
* * * * *
ที่มา: สำนักข่าว Viet Nam News เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568
[1] เป็นบริษัทชั้นนำด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเซมิคอนดักเตอร์ของโลกสัญชาติอเมริกา เข้ามาลงทุนในเวียดนามครั้งแรกเมื่อปี 2549 และปัจจุบัน
มีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง