จากรายงานของธนาคารยูโอบี (UOB) ได้คาดการณ์ว่า GDP ของเวียดนามจะเติบโตร้อยละ 6.0 ในไตรมาสที่ 2 ปี 2567 ร้อยละ 6.0 (อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ3.8) ตลอดทั้งปี 2567 และเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 6.4 ในปี 2568 ตามลำดับ โดยมีสาเหตุจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเวียดนาม จีน และประเทศอื่น ๆ ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รวมถึงความต้องการผลิตชิปมากที่เพิ่มมากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานโลก
นอกจากนี้ UOB คาดว่า ธนาคารแห่งชาติเวียดนาม (SBV) ยังจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (policy rate) อยู่ที่ร้อยละ 4.5 ในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2567 รวมทั้งอำนวยความสะดวกการเติบโตของสินเชื่อเพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ภาคอุตสาหกรรมเกิดใหม่ การเปลี่ยนผ่านสีเขียว เศรษฐกิจแบบวงกลม และการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมสำหรับผู้มีรายได้น้อย (Social Housing) เป็นต้น
ในไตรมาส 1 ปี 2567 เศรษฐกิจเวียดนาม ขยายตัวร้อยละ 5.66 ซึ่งสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 -2566ทั้งนี้ ในปี 2567 รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้า GDP ขยายตัวร้อยละ 6.5 อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 4-4.5 GDP ต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 4,700 -4,730 ดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วนของอุตสาหกรรมแปรรูปและการผลิตใน GDP อยู่ที่ประมาณ ร้อยละ 24 และอัตราการเติบโตเฉลี่ยของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อยู่ที่ร้อยละ 4-4.5 เพื่อการกระตุ้นการขยายตัวควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคอย่างยั่งยืน
(ประมวลข้อมูลโดยศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในเวียดนาม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย)
ที่มา: สำนักข่าวท้องถิ่น วันที่ 14 มิถุนายน 2567