ที่มา vneconomy.vn วันที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๓
ตามกฤษฎีกา 100/2019/ND-CP กำหนดว่า ผู้ขี่จักรยานขณะมึนเมาจะถูกปรับ ๖๐๐,๐๐๐ เวียดนามด่ง (ประมาณ ๒๖ ดอลลาร์สหรัฐ) รถจักรยานยนต์ ๘ ล้านเวียดนามด่ง (ประมาณ ๓๔๕ ดอลลาร์สหรัฐ) และรถยนต์ ๔๐ ล้านเวียดนามด่ง (ประมาณ ๑,๗๓๐ ดอลลาร์สหรัฐ) และห้ามขับขี่เป็นเวลา ๒๒-๒๔ เดือน โดยมีผู้ถูกปรับแล้ว ๖๑๕ ราย สถานการณ์ข้างต้นส่งผลให้ร้านขายเบียร์หลายรายมีลูกค้าลดลงสูงถึงร้อยละ ๗๐
บริษัทหลักทรัพย์ SSI ระบุว่า กฤษฎีกาดังกล่าวมีผลกระทบต่อธุรกิจเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทั้งระบบ โดยแบรนด์ขนาดเล็กจะได้รับผลกระทบมากกว่าแบรนด์ชั้นนำ เช่น Sabeco และ Heineken
ในปี ๒๕๖๒ การผลิตเบียร์ในเวียดนามมีปริมาณรวม ๔,๖๐๐ ล้านลิตร เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๐ จากปี ๒๕๖๑ และคาดว่า ในปี ๒๕๖๔ จะเพิ่มขึ้นเป็น ๔,๙๐๐ ล้านลิตร
สำหรับ Sabeco ในช่วง ๙ เดือนแรกของปี ๒๕๖๒ มีรายได้ ๒๘,๓๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไรสุทธิ ๔,๓๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๒.๙ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ๒๕๖๑ และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒โดยปัจจุบัน Sabeco มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ ๔๓ ในเวียดนาม รองลงมา ได้แก่ Heineken (ร้อยละ ๒๓) Habeco (ร้อยละ ๑๔) และ Calrsberg (ร้อยละ ๗)
ก่อนหน้านี้ เคยมีข่าวลือกรณีผู้ลงทุนชาวไทยมีแผนจะทำ IPO หุ้นบริษัท Sabeco แต่หลังจากนั้นก็ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นเรื่องจริง และได้แสดงความเชื่อมั่นต่อตลาดธุรกิจเบียร์ในเวียดนาม แต่หลังจากการปรับใช้กฤษฎีกา “เมาไม่ขับ” นี้แล้ว ก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่า ผู้ลงทุนชาวไทยจะยังเชื่อมั่นเช่นนั้นอยู่หรือไม่
ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในเวียดนาม
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย
วันที่ ๙ มกราคม ๒๕๖๓