เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2566 นาย Pham Minh Chinh นายกรัฐมนตรีเวียดนาม และนาย Yoon Suk Yeol ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ ได้เข้าร่วมการประชุม Vietnam – Korea Business Forum ภายใต้หัวข้อ “มุ่งสู่ความสัมพันธ์ 30 ปี อีกครั้ง และยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางอุตสาหกรรมเวียดนาม-เกาหลีใต้ในอนาคต” ในขณะเดียวกัน การประชุมดังกล่าวให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมในห่วงโซ่มูลค่าโลก การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ในห้วงการประชุมดังกล่าว นอกจาก Samsung และ LG ซึ่งเป็นบริษัทลงทุน FDI ชั้นนำในเวียดนาม ยังมีธุรกิจอื่นๆ อีกหลายแห่งที่ประกาศจะเพิ่มการลงทุนในตลาดในประเทศเวียดนาม รวมทั้ง Hyosung Group ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ที่ของเกาหลีใต้ด้วยการดำเนินธุรกิจกว่า 60 ปี ในอุตสาหกรรมเคมี เทคโนโลยีสารสนเทศ การพาณิชย์ การก่อสร้าง และสิ่งทอ นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้า (transformer) และเครื่อง ATM ชั้นนำของเกาหลีใต้ โดยส่งออกไปยังกว่า 70 ประเทศทั่วโลก
นาย Cho Hyun Joon ประธาน Hyosung Group กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ลงทุนมากกว่า 15 ปีในเวียดนาม มูลค่าลงทุนประมาณ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีพนักงานมากกว่า 9,000 คน ซึ่ง Hyosung Group ยังคงมองเวียดนามเป็นตลาดสำคัญเชิงกลยุทธ์ และในอนาคตวางแผนยังคงขยายขนาดและมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเทคโนโลยีระดับสูงพร้อมจ้างพนักงานเพิ่มอีก 10,000 คน โดยออกแถลงการณ์ว่าจะกำหนดอนาคตของธุรกิจในอีก 100 ปีข้างหน้าในเวียดนาม
ก่อนหน้านี้ Hyosung Group เป็นบริษัทที่ลงทุนในเวียดนามตั้งแต่ปี 2550 ผ่านบริษัท Hyosung Vietnam ที่ชาวเกาหลีใต้ถือหุ้นทั้งหมด ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดด่งนาย (ภาคใต้) พร้อมด้วยโรงงานผลิต 3 แห่ง ได้แก่ Tyre Cord Vietnam (ผลิตเส้นยางสำหรับล้อรถยนต์) Spandex Vietnam (ผลิตเส้น Spandex) และ Steel Cord Vietnam (ผลิตเส้นเหล็ก) ในปี 2550 2551 และ 2553 ตามลำดับ กำลังการผลิตผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปสูงถึงหลายร้อยตันต่อปี นับจนถึงปัจจุบัน Hyosung Vietnam มีโรงงานทั้งหมด 7 แห่งที่กำลังดำเนินการอยู่
นอกจากการลงทุนในจังหวัดด่งนาย Hyosung Group ยังลงทุนในโรงงานผลิตสารเคมีและโรงเก็บก๊าซปิโตรเลียม LPG (Liquefied Petroleum Gas) ใต้ดิน กำลังการผลิต 240,000 ตัน ในจังหวัด บ่าเสี่ยะ – หวุงเต่า มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และโรงงานผ้า 1 แห่ง ในจังหวัดกว๋างนามตั้งแต่ปี 2561
ที่มา: CafeBiz วันที่ 26 มิถุนายน 2566
