ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์เวียดนามมีสัดส่วนของหุ้นกู้ต่อสินทรัพย์รวมในปริมาณไม่มาก แต่ยังคงมีความเสี่ยงในด้านความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะในกรณีที่ธนาคารถือหุ้นกู้ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ โดยล่าสุด ธนาคารพาณิชย์เวียดนาม 17 แห่ง ได้รายงานจำนวนหุ้นกู้ที่ถือครองพร้อมขาย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 มูลค่ารวม 188 ล้านล้านด่ง (ประมาณ 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 28 ล้านล้านด่ง (ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากปลายปี 2564 ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการลงทุนใหม่ที่ลดลง การลดลงของหุ้นกู้ออกใหม่ และการซื้อคืนหุ้นกู้ก่อนกำหนด โดยเฉพาะหุ้นกู้ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยธนาคารพาณิชย์ 5 แห่งที่มีหุ้นกู้มากที่สุด ได้แก่ ธนาคาร MBBank ธนาคาร Techcombank ธนาคาร VPBank ธนาคาร TPBank และธนาคาร SHB ทั้งนี้ ความเสี่ยงของหุ้นกู้และผลกระทบต่อธนาคาร ขึ้นอยู่กับอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ออกหุ้นกู้และความสามารถในการชำระหนี้ โดยปัจจุบันยอดคงค้างของหุ้นกู้ที่ถือโดยธนาคารพาณิชย์เวียดนามคิดเป็นร้อยละ 2.3 ของสินทรัพย์รวม

นาย Le Hong Khang ผู้อำนวยการหน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Fiin Rating ให้ความเห็นว่า ธนาคารที่ถือครองหุ้นกู้หรือปล่อยกู้ให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีความสามารถในการชำระหนี้จำกัด อาจได้รับผลกระทบต่อสินเชื่อและหุ้นกู้ที่ธนาคารถือครอง ทั้งนี้ สัญญาสินเชื่อทั่วไปมักมีข้อบทคุ้มครองผู้ให้กู้ในกรณีที่ผู้กู้หรือออกหุ้นกู้ชําระหนี้ไม่ตรงเวลาที่กำหนดในสัญญาใดสัญญาหนึ่ง ให้ถือเป็นการผิดนัดชำระในสัญญาอื่น ๆ (cross-default) ด้วย โดยผู้ให้กู้สามารถเรียกคืนเงินกู้ได้โดยไม่ต้องรอสัญญาหมดอายุ นอกจากนี้ กฤษฎีกาฉบับที่ 08/2023/ND-CP ยังเปิดให้ธนาคารพาณิชย์สามารถปรับโครงสร้างหนี้หุ้นกู้และสินเชื่อตามสถานการณ์ของแต่ละบริษัทและโครงการได้ อย่างไรก็ดี ยังคงมีโอกาสสูงที่บริษัทที่มีปัญหาสภาพคล่องจะไม่สามารถชำระหนี้ตามกำหนด

ทั้งนี้ นาย Le Hong Khang หวังว่านโยบายใหม่ของรัฐบาลจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อใหม่ได้นานขึ้นควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยคาดว่า บริษัทต่าง ๆ จะกลับมาออกหุ้นกู้อีกครั้งเพื่อบรรเทาสถานการณ์การขาดสภาพคล่องในปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ

อนึ่ง มูลค่ารวมของหุ้นกู้ส่วนบุคคลของผู้ออกหุ้นกู้ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2566 อยู่ที่ 235 ล้านล้านด่ง (1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยในจำนวนนี้แบ่งเป็นหุ้นกู้อสังหาริมทรัพย์ประมาณ 100 ล้านล้านด่ง (4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อกระแสเงินสด โดยเฉพาะในภาวะซบเซาของภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจการไฟฟ้า รวมถึงภาคส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น การก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง

ที่มา: Vietnamnet.vn วันที่ 22 มีนาคม 2566

https://vietnamnet.vn/en/banks-hold-us-8-billion-worth-of-corporate-bonds-2123136.html