เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 สำนักงานการต่างประเทศจังหวัดหลั่งเซิน ได้รายงานต่อคณะกรรมการประชาชนจังหวัดฯ ว่า ได้เตรียมพร้อมในการประกาศขยายการขนสินค้าผ่านด่านสากลหูหงิ (Huu Nghi International Border Gate) ไปยัง Tan Thanh – Po Chai และด่าน Lung Nghiu ของเวียดนาม
เกี่ยวกับเรื่องนี้ จีนขอให้เวียดนามเตรียมพร้อมในการดำเนินการเปิดด่านชายแดนของฝั่งเวียดนาม และขอให้เวียดนามมีหนังสือแจ้งตอบจีนอย่างเป็นทางการ เพื่อจะได้ดำเนินการที่เกี่ยวข้องต่อไป
จากข้อมูลเบื้องต้น การขยายด่านชายแดนตามที่ฝ่ายจีนเสนอจะอำนวยความสะดวกด้านการค้าทั้งการนำเข้า และการส่งออกสินค้าระหว่างเวียดนามและจีน โดยเฉพาะในช่วงท้ายปีซึ่งเป็นช่วงที่มีการนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างทั้งสองประเทศมากที่สุด โดยการขยายพื้นที่บริเวณด่านชายแดนในช่วงแรกนี้จะช่วยส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรของเวียดนามไปยังประเทศอื่น ๆ ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 2566 จนถึงปัจจุบัน การส่งออกของเวียดนามไปยังจีนจำนวนมากเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยสินค้าเกษตรส่งออกที่สำคัญได้แก่ ทุเรียน กล้วย ขนุน มะม่วง ข้าว เป็นต้น โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งทางการจีนได้ตรวจสอบคุณภาพและแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์อย่างเข้มงวด
ข้อมูลจากคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจด่านชายแดน Dong Dang- Lang Son ระบุว่า ด่านสากลหูหงิมีการนำเข้า-ส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยตั้งแต่เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 สำหรับการส่งออก มีรถบรรทุกสินค้าผ่านด่านเฉลี่ย 179 คัน/วัน ยอดรถบรรทุกสินค้าผ่านด่านรวมอยู่ที่ 35,851 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 219 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนการนำเข้า มีรถบรรทุกสินค้าผ่านด่านเฉลี่ยอยู่ที่ 396 คัน/วัน ยอดรถบรรทุกสินค้าผ่านด่าน รวมอยู่ที่ 78,944 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 156 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ศูนย์ข้อมูลธุรกิจฯ ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สินค้าของไทยที่ขนส่งผ่านเวียดนามไปยังจีนส่วนใหญ่จะถูกขนส่งผ่านด่านสากลหูหงิ ดังนั้น หากเวียดนามและจีนเห็นพ้องในการขยายการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจากด่านหูหงิไปยังบริเวณด่านชายแดนอื่น ๆ ในจังหวัดหลั่งเซิน ก็จะเพิ่มโอกาสและช่องทางสำหรับการขนส่งสินค้าผ่านเวียดนามไปยังจีนด้วย
ที่มา: Bao Thanh Nienวันที่ 4 ตุลาคม 2566