
ในวันที่ 23 ธันวาคม 2565 ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดหล่าวกายมีแผนพบกับฝ่ายจีน เพื่อเจรจาเกี่ยวกับการเปิดด่านชายแดนระหว่างเวียดนาม-จีน ซึ่งเชื่อมภาคเหนือของเวียดนามกับมณฑลยูนนานของจีน พร้อมทั้งใช้โอกาสดังกล่าวในการหารือเกี่ยวกับมาตรการการควบคุมโรคโควิด-19 ในสินค้าและคนด้วย
ก่อนหน้านี้ ในการประชุมเพื่อดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในปี 2566 ของจังหวัดหล่าวกาย เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำจังหวัดหล่าวกายคาดว่า ด่านชายแดนดังกล่าวจะสามารถกลับมาเปิดเพื่อการนำเข้า-ส่งออกสินค้าอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ในปี 2565 มูลค่าการนำเข้าและส่งออกผ่านด่านพรมแดนในจังหวัดหล่าวกายคาดว่าจะสูงถึงกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และตั้งเป้าในปี 2566 จะเพิ่มขึ้นถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
จังหวัดหล่ายกายเป็นที่ตั้งของด่านชายแดนที่ติดกับประเทศจีน ซึ่งมีการนำเข้า-ส่งออกสินค้า และการข้ามผ่านแดนของประชาชน ทั้งหมด 3 แห่งได้แก่ ด่านชายแดน Kim Thanh II ด่านระหว่างประเทศหล่าวกาย (Lao Cai International Border Gate) และด่านรถไฟหล่าวกาย