ตามประกาศการประชุมรัฐบาลประจำเดือนสิงหาคม 2566 นาย Pham Minh Chinh นายกรัฐมนตรีเรียกร้องให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงแรงงาน ทหารผ่านศึก และสวัสดิการสังคม (MOLISA) จัดทำข้อเสนอเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำสำหรับแรงงาน เพื่อเป็นไปตามมาตรฐานการครองชีพขั้นต่ำของแรงงานและครอบครัวซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
ค่าแรงขั้นต่ำจะปรับตามปัจจัยต่างๆ ได้แก่ มาตรฐานการครองชีพขั้นต่ำของแรงงานและครอบครัว ความสอดคล้องระหว่างค่าจ้างขั้นต่ำกับค่าจ้างในตลาด ดัชนีราคาผู้บริโภค อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างอุปสงค์และอุปทานของแรงงาน การจ้างงานและการว่างงาน กำลังผลิตและความสามารถในการชำระเงินขององค์กร เป็นต้น
ผลการสำรวจสถานการณ์คุณภาพชีวิต การจ้างงาน ของคนงานในปี 2566 โดยกรมนโยบายกฎหมายร่วมกับ สมาพันธ์แรงงานเวียดนาม (VGCL) ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 พบว่ามีเพียง ร้อยละ 25 ของแรงงานระบุว่า มีรายได้เพียงพอกับค่าครองชีพ ส่วนที่เหลืออีกกว่าร้อยละ 75 มีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ดังนั้น VGCL จึงเสนอให้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำในปี 2567 ที่ร้อยละ 5-6 เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของแรงงานงาน ช่วยเหลือภาคธุรกิจและสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
สภาค่าจ้างแห่งชาติ (NWC) คาดว่า ค่าแรงขั้นต่ำจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 หรือ 1 กรกฎาคม 2567 โดยเสนอค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นตามหลักการกำหนดให้ค่าแรงขั้นต่ำเท่ากับหรือสูงกว่ามาตรฐานการครองชีพขั้นต่ำ แต่เนื่องจากยังไม่มีข้อสรุป NWC จึงตัดสินใจเลื่อนการประชุมครั้งถัดไปเป็นไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถประเมินสถานการณ์ตลาดแรงงาน การจ้างงาน และการฟื้นตัวของธุรกิจ ก่อนเสนอแนะแนวทางแก้ไขเฉพาะต่อรัฐบาล
ทั้งนี้ ค่าแรงขั้นต่ำของเวียดนามต่อเดือนในเขตภูมิภาค 1 (เช่น กรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ รวมทั้งพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ)อยู่ที่ประมาณ 4,680,000 ดอง/เดือน (ประมาณ 6,900 บาท) หรือประมาณ 22,500 ดอง/ชั่วโมง (ประมาณ 33 บาท) ซึ่งตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน มีการปรับค่าแรงขั้นต่ำทั้งหมด 8 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2565 ปรับขึ้นร้อยละ 6
ที่มา: สำนักข่าวท้องถิ่น วันที่ 13 กันยายน 2566
https://vneconomy.vn/chinh-phu-yeu-cau-som-de-xuat-tang-luong-toi-thieu-cho-nguoi-lao-dong.htm
https://baomoi.com/chinh-phu-yeu-cau-som-de-xuat-tang-luong-toi-thieu-cho-nguoi-lao-dong/c/46890270.epi