
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 นาย Pham Minh Chinh นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้ลงนามมติเลขที่ 13/CT-TTgเกี่ยวกับการจัดการคาร์บอนเครดิต โดยภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะประสานงานกัน เพื่อพัฒนาตลาดคาร์บอนเครดิต ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จัดสรรโควต้าการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การค้าคาร์บอนเครดิต และทรัพยากรทางการเงินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเวียดนาม เป็นต้น
ในการนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (MONRE) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการจัดตั้งระบบการลงทะเบียนระดับชาติสำหรับคาร์บอนเครดิต จัดการโครงการและกิจกรรมต่างๆ รวมถึงผลิตคาร์บอนเครดิตสำหรับการนำร่องสู่ตลาดคาร์บอน อีกทั้งจัดทำร่างมติฉบับใหม่เกี่ยวกับการออกหนังสืออนุมัติสำหรับซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างประเทศ ซึ่งจะต้องยื่นต่อรัฐบาลก่อนวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 ส่วนกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) รับผิดชอบในสร้างฐานข้อมูล และประเมินศักยภาพในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จนถึงปี 2573 และกระทรวงการคลัง (MOF) รับมอบหมายในการจัดการโครงการเพื่อพัฒนาตลาดภายในประเทศ
ปัจจุบัน เวียดนามมีพื้นที่ป่าไม้ 14.79 ล้านเฮกตาร์ หรือประมาณร้อยละ 42 ของพื้นที่ทั้งหมด โดยสามารถผลิตคาร์บอนเครดิตได้ประมาณ 40 ล้านเครดิต สร้างรายได้ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี ทั้งนี้ เวียดนามตั้งเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 15.8 เทียบเท่ากับคาร์บอน 146 ล้านตัน และเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 43.5 และ 403 ล้านตันหากได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศ โดยมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593
(ประมวลข้อมูลโดยศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในเวียดนาม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย)
ที่มา: Bao Chinh Phu วันที่ 7 พฤษภาคม 2567