เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 ในการประชุมประจำปีด้านการกำกับดูแลกิจการในหัวข้อ “ปลดล็อกการเงินสีเขียวและธรรมาภิบาลสีเขียว” จัดขึ้น ณ กรุงฮานอย นาย Luong Hai Sinh รองประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ กล่าวว่า การเติบโตสีเขียวเป็นกระแสของโลกรวมทั้งเวียดนามที่จะมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยการเติบโตสีเขียวจำเป็นต้องอาศัยแหล่งเงินทุนที่หลากหลาย และตลาดการเงินสีเขียวเป็นช่องทางที่สำคัญสำหรับการเติบโตสีเขียวทางเศรษฐกิจ แต่ก็เป็นประเด็นที่ค่อนข้างใหม่สำหรับเวียดนาม
ข้อมูลจากธนาคารโลก (World Bank) ระบุว่า ตั้งแต่บัดนี้ถึงปี 2593 เวียดนามจำเป็นต้องลงทุนเพิ่มประมาณ 368,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 6.8 ของ GDP เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero นอกเหนือจากงบประมาณสาธารณะ เวียดนามยังจะระดมทรัพยากรจากภาคเอกชนและองค์กรระหว่างประเทศ ผ่านการจัดตั้งและพัฒนาตลาดการเงินสีเขียว จนถึงปัจจุบัน ตลาดการเงินสีเขียวในเวียดนามได้วางรากฐานประกอบด้วย สินเชื่อสีเขียว หุ้นกู้สีเขียว และพันธบัตรสีเขียว
ในขณะเดียวกัน กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MOIT) ระบุว่า จังหวัดต่าง ๆ ของเวียดนามเสนอแผนในการพัฒนาโครงการพลังงานสะอาดเกินกว่าปริมาณที่ต้องการจริง โดยในแผนพัฒนาไฟฟ้าแห่งชาติ (PDP8) ระบุว่า จังหวัด 27 จังหวัด มีศักยภาพในการพัฒนาพลังงานลมด้วยกำลังการผลิตรวม 12,773 MW แต่มีความประสงค์ในการพัฒนาโครงการพลังงานสะอาดกำลังการผลิตสูงถึง 47,416 MW นอกจากนี้ จังหวัด 23 จังหวัดที่มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็ก เสนอแผนการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำสูงกว่ากำลังการผลิตจริง 1.7 เท่าหรือประมาณ 4,025 MW ในทำนองเดียวกันนั้น กำลังการผลิตไฟฟ้าชีวมวลที่จังหวัต่าง ๆ เสนอเพิ่มขึ้น 4.4 เท่า หรือประมาณ 1,805 MW และการผลิตไฟฟ้าจากขยะ สูงกว่า 1.7 เท่า เท่าหรือประมาณ 1,116 MW เป็นต้น โดยเนื้อหาดังกล่าวได้เสนอโดย MOIT ในร่างรายงานแผน PDP8 ซึ่งเป็นครั้งที่ 4 ที่มีการเสนอร่างแผนฯ เพื่อแสดงความคิดเห็น หลังจาก 3 ครั้งก่อนหน้านี้ยังไม่เป็นไปตามข้อกำหนด
ที่มา: สำนักข่าวท้องถิ่น วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566
https://vnexpress.net/cac-dia-phuong-de-xuat-phat-trien-dien-gap-nhieu-lan-quy-hoach-4679840.html
