ผู้เชี่ยวชาญด้านการคลังวิเคราะห์ว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 เหลือเป็นร้อยละ 4.50-4.75 เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 จะทำให้ค่าสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่ามากขึ้น ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันอย่างมากต่อนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารแห่งชาติเวียดนาม (SBV) ในระยะต่อไป เนื่องจากการปรับขึ้นของดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ได้ส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน USD/VND สูงขึ้นโดยเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 SBV ได้ปรับขึ้นอัตราแลกเปลี่ยนขั้นพื้นฐานของเงินดองต่อดอลลาร์สหรัฐต่อ VND จาก 24,290 VND/ 1 USD เป็น 24,298 VND/ 1 USD
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ธนาคาร UOB คาดการณ์ว่า SBV จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยการรีไฟแนนซ์ (refinancing interest rate) อัตรารับช่วงซื้อลด (rediscount rate) อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก (deposit rate) และจะยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะสั้น (3 เดือน) ไว้ที่ร้อยละ 3-4/ปี และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะยาว (12 เดือน)ไว้ที่ร้อยละ 5-6/ปี อย่างไรก็ดี มีแนวโน้มสูงที่สินเชื่อและหนี้เสียในภาคธนาคารของเวียดนามจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และการฝากเงินมีอัตราเติบโตลดลง
(ประมวลข้อมูลโดยศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในเวียดนาม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย)
ที่มา: สำนักข่าวท้องถิ่นวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567
https://vietnamnews.vn/economy/1687541/monetary-policy-forecast-unlikely-to-loosen-further.html