
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 นาย Le Van Thanh รองนายกรัฐมนตรีลงนามในมติ (resolution) เกี่ยวกับแผนแม่บทระดับชาติสำหรับปี 2564-2573 โดยมีวิสัยทัศน์ถึงปี 2593
แผนดังกล่าวระบุว่า เวียดนามตั้งเป้าหมายจะเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยและไร้รอยต่อภายในปี 2573
การเติบโตของ GDP ของเวียดนามเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 7 ต่อปีในช่วงปี 2564-2573 โดย GDP ของภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดงของประเทศ จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 8-8.5 ต่อปี ภายในปี 2573 สัดส่วนของสาขาบริการต่อ GDP จะเติบโตกว่าร้อยละ 50 สาขาอุตสาหกรรมและการก่อสร้างมีสัดส่วนกว่าร้อยละ 40 และสาขาเกษตร ป่าไม้ ประมง มีสัดส่วนน้อยกว่าร้อยละ 10
เวียดนามตั้งเป้าสร้างพื้นที่ทางเศรษฐกิจสำคัญในภาคเหนือและใต้ โดยมีกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์เป็นเสาหลัก ประกอบด้วยระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ จังหวัดหล่าวกาย (Lao Cai) – กรุงฮานอย – นครไฮฟอง (Hai Phong) – จังหวัดกว๋างนิญ (Quang Ninh) และ ชายแดนม็อกไบ (Moc Bai) – นครโฮจิมินห์ – หวุงเต่า (Vung Tau) ซึ่งมีอัตราการขยายตัวของความเป็นเมืองกว่าร้อยละ 50
นอกจากนี้ ในแผนดังกล่าวการเปลี่ยนแปลงผ่านทางดิจิทัลจะได้รับความสำคัญอย่างมาก โดยเน้นการสร้างรัฐบาลดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัล และสังคมดิจิทัล ทั้งนี้ ส่วนแบ่งของเศรษฐกิจดิจิทัลคาดว่าอยู่ที่ประมาณร้อยละ 30 ของ GDP
ภายในปี 2573 คาดว่า ประชากรเวียดนามจะมีจำนวนสูงถึง 105 ล้านคน ดัชนีการพัฒนามนุษย์ (Human Development Index – HDI) สูงกว่า 0.7 อายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 75 ปี พื้นที่อยู่อาศัยเฉลี่ยต่อคนในเขตเมืองอย่างน้อย 32 ตารางเมตร และ เป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มีบริการการศึกษาที่ดีที่สุดในเอเชีย
ภายในปี 2593 เวียดนามตั้งเป้าเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีสถานะรายได้สูง และมีโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย มุ่งสู่การสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ มติดังกล่าวยังระบุชัดเจนว่า จะมีการแบ่งพื้นที่การพัฒนาในด้านต่าง ๆ ออกเป็น 6 เขต ประกอบด้วย
(1) ภาคเหนือและพื้นที่ภูเขา จำนวน 14 จังหวัด พัฒนาเศรษฐกิจป่าไม้อย่างยั่งยืนและ อุตสาหกรรมแปรรูป มุ่งปกป้องและอนุรักษ์ป่าสงวน และป่าอนุรักษ์ต้นน้ำ ใช้ประโยชน์และใช้ทรัพยากรแร่อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่มีลักษณะเฉพาะของชาติ
(2) ภูมิภาคดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง จำนวน 9 จังหวัด และ 2 นคร มุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตและการบริการที่ทันสมัย เป็นศูนย์กลางของนวัตกรรม พัฒนาการประยุกต์ใช้ทางวิทยาศาสตร์และทางเทคนิค
(3) เขตชายฝั่งทะเลภาคกลางตอนเหนือและตอนใต้ จำนวน 14 จังหวัดและเมือง พัฒนาเศรษฐกิจทางทะเลโดยคำนึงถึงความมั่นคงแห่งชาติ ปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบท่าเรือ พัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมแปรรูป พลังงานรีไซเคิล ป่าไม้ – ประมง และ พัฒนาการท่องเที่ยวทางทะเล
(4) ภูมิภาคที่ราบสูงภาคกลาง จำนวน 5 จังหวัด อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และน้ำ พัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร ป่าไม้ และแปรรูปผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ พลังงานหมุนเวียน พัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เพื่อรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ
(5) ภาคตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน 6 จังหวัด เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน และโลจิสติกส์ที่มีการแข่งขันสูงในภูมิภาค สร้างเขตอุตสาหกรรมและบริการที่ทันสมัยเพื่อดึงดูดการลงทุน พัฒนาเศรษฐกิจทางทะเล บริการโลจิสติกส์ท่าเรือ อุตสาหกรรมการสกัดและแปรรูปน้ำมันและก๊าซ เป็นผู้นำประเทศในด้านต่างๆ เช่น การแปลงผ่านทางดิจิทัล การศึกษา สุขภาพ ฯลฯ
(6) ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง จำนวน 12 จังหวัด และ 1 นคร เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจการเกษตรที่ยั่งยืนของเวียดนามและในภูมิภาคโดยเน้นการผลิตทางการเกษตร สร้างศูนย์สตาร์ทอัพสร้างสรรค์แห่งชาติเพื่อการเกษตร พัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว และพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
อนึ่ง กระทรวงแผนงานและการลงทุนเวียดนามจะรายงานนายกรัฐมนตรีเมื่อจัดทำแผนแม่บทแห่งชาติดังกล่าวเสร็จสิ้นก่อนนำเสนอให้สภาแห่งชาติเวียดนามพิจารณาอนุมัติต่อไป
ที่มา: