เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 กระทรวงการคลังเวียดนามได้จัดงานสัมมนาหัวข้อ “กฎระเบียบด้านภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลก ประสบการณ์จากประเทศต่าง ๆ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และแนวทางแก้ไขสำหรับเวียดนาม” โดยนาย Ho Duc Phoc รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเวียดนามได้กล่าวในงานสัมมนาดังกล่าวว่า ปัจจุบันเวียดนามมีบริษัทที่มีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) 1,015 แห่ง ที่อยู่ในข่ายจะต้องเสียภาษีนิติบุคคลตามมาตรการ Global Minimum Tax (GMT) ของ OECD ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2567 เพื่อป้องกันปัญหาการหลบเลี่ยงภาษีของบริษัทข้ามชาติ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ธุรกิจหลายด้านมีการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิตัลซึ่งไม่ถูกจำกัดโดยเขตแดนประเทศ โดยในจำนวนนี้มีบริษัท FDI กว่า 70 แห่งที่อาจต้องชำระภาษีส่วนต่างเพิ่มกว่า 12 ล้านล้านด่ง (511 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับรัฐบาลของประเทศที่บริษัทแม่ตั้งอยู่ ทำให้มาตรการส่งเสริมการลงทุนของเวียดนามที่เน้นการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีมีความน่าสนใจลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้ขีดความสามารถในการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติของเวียดนามลดลงด้วย ซึ่งเวียดนามได้มีการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับการเริ่มบังคับใช้มาตรการ GMT ดังกล่าว โดยในปี 2565 นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้จัดตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อศึกษาและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา
อนึ่ง เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2564 ในการประชุมความร่วมมือเพื่อป้องกันการหลบเลี่ยงภาษีและการโยกย้ายกำไร (Base Erosion and Profit Shifting : BEPS) กว่า 160 ประเทศ ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการกำหนด GMT ที่ร้อยละ 15 โดยมีผลบังคับใช้กับบริษัทข้ามชาติที่มีรายได้รวมอย่างน้อย 750 ล้านยูโร (819 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีกำไรมากกว่าร้อยละ 10 ของรายได้ ซึ่งหากบริษัทตั้งอยู่ในประเทศที่มีการจัดเก็บภาษีต่ำกว่าอัตราดังกล่าว บริษัทนั้นจะต้องชำระภาษีส่วนที่เหลือในประเทศที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่
ในปัจจุบัน บริษัท FDI ในเวียดนามต้องเสียภาษีเฉลี่ยร้อยละ 12.3 และบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่บางแห่งยังได้รับอัตราภาษีพิเศษเพียงร้อยละ 2.75-5.95 ซึ่งต่ำกว่าอัตราภาษีปกติอยู่ที่ร้อยละ 20 ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับอัตรา GMT เวียดนามจำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายอย่างน้อย 3 ฉบับ ได้แก่ กฎหมายว่าด้วยการลงทุน กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจ กฎหมายว่าด้วยภาษีนิติบุคคล รวมถึงกฎระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ที่มา: Saigon Giai Phong เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566
https://dttc.sggp.org.vn/uu-dai-thue-cho-doanh-nghiep-fdi-sap-bi-vo-hieu-post103785.html