ข้อมูลจากกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MOIT) ระบุว่า ตลาดค้าปลีกเวียดนามมีมูลค่า 142,000ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกือบ 2.5 เท่าเป็น 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2568 โดยในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2566 ยอดค้าปลีกทั้งหมดของเวียดนามเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับปี 2565 ดังนั้น เนื่องจากการเติบโตอย่างมั่นคง ตลาดค้าปลีกของเวียดนามจึงกำลังกลายเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับบริษัทต่างชาติ โดยนักลงทุน FDI ทั่วโลกจำนวนมากได้เปิดเผยแผนการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องในเวียดนาม
ตั้งแต่ต้นปี 2566 ผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกของญี่ปุ่นได้เปิดเผยแผนการขยายการลงทุนในเวียดนาม โดยมูลค่าลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2566 สูงถึงเกือบ 146 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจนถึงสิ้นไตรมาสที่ 1/2566 มูลค่าการลงทุนของญี่ปุ่นในเวียดนามอยู่ที่ 319.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นนักลงทุนต่างชาติอันดับที่ 7 รองจากสิงคโปร์ จีน ไต้หวัน เกาหลี ฮ่องกง และ เนเธอร์แลนด์[1] ทั้งนี้ ผู้ค้าปลีกญี่ปุ่นได้ขยายสาขาในเวียดนามเพิ่มขึ้น เช่น Uniqlo กำลังจะเปิดตัวสาขาเพิ่มเติม หลังจากเปิดสาขาที่ 16 ที่ห้างสรรพสินค้า Thiso Mall ในเมือง Thu Duc นครโฮจิมินห์ ซึ่งตัวแทนจาก Uniqlo มองเวียดนามเป็นตลาดที่อายุน้อย มีพลวัต และเติบโตอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ AEON ได้เริ่มก่อสร้างสาขาที่ 7 ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในจังหวัดเถื่อเทียนเว้ และจะเร่งเปิดห้างสรรพสินค้าในเวียดนามเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าเป็นประมาณ 16 แห่งภายในปี 2568
นอกจากนี้ นาย Tomoyasu Takada ประธาน Trade Media Japan ได้เน้นย้ำถึงศักยภาพของตลาดเวียดนาม สำหรับธุรกิจอาหารญี่ปุ่น โดยกล่าวว่า ประเทศเวียดนามเป็นตลาดสำคัญที่พร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้า รวมถึงอาหารเสริมคุณภาพสูง และคาดว่าตลาดเวียดนามจะมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 30 ของการส่งออกอาหารทั้งหมดของญี่ปุ่นในอนาคตอันใกล้
ทั้งนี้ ผลสำรวจล่าสุดขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ระบุว่า ร้อยละ 60 ขององค์กรญี่ปุ่นยินดีขยายการลงทุนในตลาดเวียดนามโดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 เมื่อเทียบกับปี 2565 และสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อนึ่ง Central Retail Corporation (CRC) ของไทยได้ประกาศเพิ่มทุน 1,450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนร้านค้าขึ้น 2 เท่าเป็น 600 แห่งใน 57 จังหวัด ซึ่งนับเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดของ CRC ในเวียดนามเท่าที่เคยประกาศ และเวียดนามถือเป็นตลาดที่นำรายได้สูงสุดให้กับบริษัทฯ ที่ประมาณร้อยละ 22 เช่นเดียวกับตลาดไทย
ที่มา: VOV News วันที่ 12 เมษายน 2566
https://english.vov.vn/en/economy/japanese-firms-continue-to-pour-investment-into-vietnamese-market-post1013487.vov
https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-retail-market-appealing-to-foreign-investors-post1010030.vov
[1] ข้อมูลจากรายงาน FDI ประจำเดือนมีนาคม 2566
https://fia.mpi.gov.vn/Detail/CatID/457641e2-2605-4632-bbd8-39ee65454a06/NewsID/d702c50b-26db-4f64-9beb-c34327550dfd/MenuID/07edbbe1-67a3-484b-a4e2-b5faef1b9de5