เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 นาย Pham Minh Chinh นายกรัฐมนตรีเวียดนามเป็นประธานการประชุมกับบริษัทต่างชาติที่ลงทุนในเวียดนาม (Foreign Direct Investment – FDI) ในหัวข้อ “Companionship and Development” จัดโดยกระทรวงการวางแผนและการลงทุนของเวียดนาม (MPI) และสำนักงานรัฐบาลเวียดนาม
ในการประชุมข้างต้น นาย Pham Minh Chinh นายกรัฐมนตรีเวียดนามแจ้งว่า รัฐบาลเวียดนามพร้อมสนับสนุนบริษัท FDI 3 ด้าน ได้แก่ (1) การปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ทางกฎหมายของนักลงทุนในทุกกรณี (2) การมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับบริษัท FDI ต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคทางธุรกิจ และส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจให้บริษัทฯ สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว (3) การส่งเสริมภาคธุรกิจที่เสริมสร้างระบบนิเวศน์ทางธุรกิจที่สร้างสรรค์ การผลิตที่โปร่งใสและยั่งยืน และมุ่งเอาผิดทางกฎหมายกับบุคคล/ธุรกิจที่ละเมิดกฎหมายของเวียดนาม
ข้อคิดเห็นของภาคธุรกิจต่างชาติต่างที่สำคัญได้แก่ (1) นาย David Whitehead, กรรมการของ Vietnam Business Forum (VBF) เสนอว่า รัฐบาลเวียดนามควรปรับปรุงขั้นตอนการออกใบอนุญาตในการจัดสรรที่ดินและใบอนุญาตทำงาน รวมถึงการลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นในการจดทะเบียนบริษัทเพื่อให้สามารถดึงดูดการลงทุนต่างชาติได้มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (2) นาย Torben Minko รองประธานหอการค้ายุโรป (EuroCham) แจ้งข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของเวียดนามให้สอดคล้องกับข้อกำหนดการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรปและแนะนำให้รัฐบาลเวียดนามมีกรอบกฏหมายที่เข้มงวดในการควบคุมการใช้พลังงานฟอสซิล (3) นาย John Rockhold ประธานหอการค้าอเมริกาในเวียดนาม (AmCham Vietnam) ยืนยันว่า การยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างสหรัฐอเมริกาและเวียดนามสามารถเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าไปในตลาดเวียดนาม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และ (4) นาย Tadahiro Kinoshita ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นในเวียดนาม (JCCI) คาดว่าจะเพิ่มอัตราการใช้วัตถุดิบที่ผลิตในประเทศเวียดนาม (localization rate) มากขึ้น และส่งเสริมความร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นที่มีศักยภาพในการสนับสนุนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งจะสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของเวียดนาม โดยมีเป้าหมายในการเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานการลงทุนจากต่างประเทศในเวียดนามอย่างแข็งแกร่ง
นอกจากนั้น นาง Nguyen Thi Bich Ngoc รัฐมนตรีช่วยว่าการ MPI เปิดเผยในที่ประชุมว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 เวียดนามสามารถดึงดูด FDI มูลค่า 20.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 7.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 โดยมีโครงการกว่า 38,300 โครงการ มูลค่าการลงทุนมากกว่า 455 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ปัจจุบันเวียดนามเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่สามในอาเซียน โดยมี GDP มากกว่า 400 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และในอนาคต เวียดนามจะเน้นโครงการการลงทุนที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและเทคนิคการจัดการสมัยใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีมูลค่าสูงตามวิสัยทัศน์การพัฒนาที่ยั่งยืน
ที่มา: Dien Dan Doanh Nghiep เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566
Nhan Dan เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566
