
นครโฮจิมินห์ตั้งเป้าพัฒนาและยกระดับระบบบริหารภาครัฐให้เป็นดิจิทัลเต็มรูปแบบภายในปี 2568 โดยไม่เพียงแค่เปลี่ยนเอกสารเป็นรูปแบบดิจิทัล แต่จะดำเนินการทุกกระบวนการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณะผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทั้งหมด
ในปี 2567 นครโฮจิมินห์ได้ดำเนินการปรับปรุงระบบบริหารภาครัฐให้ทันสมัยมากขึ้น ดังนี้
1. จัดตั้งศูนย์เปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ก่อตั้งเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567 ซึ่งเป็นหน่วยงานอยู่ภายใต้การบริหารของคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์
2. พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล 7 ระบบอย่างเป็นทางการ ได้แก่ (1) ระบบติดตามข้อมูลบนเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและบริหารจัดการข้อมูลได้มากขึ้น (2) ระบบจัดการเรื่องร้องเรียนที่ปรับปรุงใหม่ เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น (3) แผนที่การดำเนินงานของนครโฮจิมินห์ เพื่อประเมินประสิทธิภาพการและคุณภาพการให้บริการสาธารณะ (4) พอร์ทัลข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์อย่างเป็นทางการของนครโฮจิมินห์ (5) แพลตฟอร์มส่งเสริมนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมกิจกรรมด้านเทคโนโลยีและการพัฒนา (6) แพลตฟอร์มประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสนับสนุนการทำงานของสภาประชาชนฯ[1] และ (7) ระบบบริหารและติดตามการลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
3. เชื่อมโยงฐานข้อมูลระดับชาติ 11 ระบบ ครอบคลุมการบริการสาธารณะ การชำระเงิน ฐานข้อมูลประชากร การลงทะเบียนสวัสดิการสังคมออนไลน์[1] บริการสาธารณะและระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แบบ Single-Window[2] บริการสาธารณะของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทะเบียนราษฎร์[3] การออกใบรับรองประวัติอาชญากรรมออนไลน์[4] บริการสาธารณะเชื่อมโยง[5] การจดทะเบียนธุรกิจ[6] และ ข้อมูลประกันสังคม
4. เชื่อมโยงระบบซอฟต์แวร์เฉพาะด้านของภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการและการแบ่งปันข้อมูล
5. เตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล แพลตฟอร์มข้อมูล และการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ภาครัฐให้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานแบบดิจิทัล
6. ปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายภายในทั้งหมดและเพิ่มมาตรการความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อรองรับการเชื่อมต่อระหว่างหน่วยงานระดับต่าง ๆ และเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เข้มงวดเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและภาคธุรกิจ
7. เปิดตัวแอปพลิเคชั่น “พลเมืองดิจิทัล” (Digital Citizen) เพื่อให้ประชาชนและภาคธุรกิจเข้าถึงบริการสาธารณะออนไลน์ได้สะดวกมากขึ้น พร้อมสนับสนุนการใช้ลายเซ็นดิจิทัล และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์
8. เปลี่ยนการใช้เอกสารกระดาษเป็นเอกสารดิจิทัล เพื่อลดภาระงานเอกสารของประชาชน และเพิ่มประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และความรวดเร็วในการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ
อย่างไรก็ดี แม้ว่าการดำเนินการจะมีความคืบหน้าอย่างมาก แต่นครโฮจิมินห์ยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ในระยะต่อไป นครโฮจิมินห์จึงจำเป็นต้องลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมเพื่อรองรับการใช้งานของประชาชนและภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้น การปรับปรุงขั้นตอนทางกฎหมาย โดยเฉพาะลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ การยืนยันตัวตนดิจิทัล และขั้นตอนการดำเนินงานผ่านช่องทางออนไลน์ และการพัฒนาแรงงานที่มีทักษะสูง เพื่อดูแลและบริหารจัดการระบบดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
* * * * *
ที่มา: สำนักข่าว Vietnamnet เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568
[1] กระทรวงแรงงาน ทหารผ่านศึก และสวัสดิการสังคม
[2] กระทรวงคมนาคม
[3] กระทรวงยุติธรรม
[4] กระทรวงยุติธรรม
[5] กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ
[6] กระทรวงการวางแผนและการลงทุน
[1] ทดลองในการประชุมสมัยที่ 17 วาระที่ 10 ของสภาประชาชนนครโฮจิมินห์