นครโฮจิมินห์พัฒนานโยบาย “One-stop service” เพื่อเพิ่มระบบนิเวศการลงทุนสำหรับธุรกิจ Start-up อย่างยั่งยืน

POST ON 16 เมษายน 2025

นครโฮจิมินห์พัฒนานโยบาย “One-stop service” เพื่อเพิ่มระบบนิเวศการลงทุนสำหรับธุรกิจ Start-up อย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่3 เมษายน 2568 กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของนครโฮจิมินห์ได้จัดงานสัมมนาภายใต้หัวข้อ “แนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาระบบนิเวศ Start-up สร้างสรรค์ในนครโฮจิมินห์จนถึงปี 2573 พร้อมประกาศโครงการคัดเลือกและบ่มเพาะ Start-up ด้านนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ประจำปี 2568 โดยมีผู้เชี่ยวชาญและภาคธุรกิจร่วมหารือและเสนอนโยบายต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ Start-up มีโอกาสเข้าถึงการสนับสนุนทางการเงิน และการให้คำปรึกษาด้านการฝึกอบรม เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายให้นครโฮจิมินห์เป็นศูนย์กลาง Start-up เชิงสร้างสรรค์ชั้นนำในภูมิภาค

ในช่วงที่ผ่านมา นครโฮจิมินห์ได้ออกแผนปฏิบัติการมากกว่า 10 ฉบับ และจัดงานสัมมนาต่าง ๆ เกือบ 10 ครั้ง เพื่อดำเนินการตามข้อมติ ที่ 57-NQ/TW ลงวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2024 ของกรมการเมืองว่าด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นวัตกรรม และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลระดับชาติเพื่อการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ ปี 2569 – 2573 โดยตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปีข้างหน้า (1) นครฯ จะมีจำนวนบริษัทด้านนวัตกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า (ปัจจุบัน นครฯ มีจำนวนบริษัทด้านนวัตกรรมคิดเป็นร้อยละ 50 ของจำนวนบริษัททั้งหมดของประเทศ) (2) เพิ่มงบประมาณในการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของนครฯ เป็นร้อยละ 3 ของรายจ่ายงบประมาณทั้งหมดของนครฯ และ (3) เพิ่มอัตราการจดสิทธิบัตรของนครฯ เป็นร้อยละ 16-18 ต่อปี

ทั้งนี้ นครฯ จะมุ่งเน้นการพัฒนา 3 ด้านสำคัญ ดังนี้

1. ด้านนโยบาย มุ่งลดความซับซ้อนของขั้นตอนการบริหาร และการเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมธุรกิจ Start-up ด้านนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์

ปัจจุบัน นครโฮจิมินห์ได้เสนอนโยบาย “One-Stop Service สำหรับธุรกิจ Start-up ด้านนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ โดยบุคคลหรือผู้ประกอบการรายใดที่ประสงค์จัดตั้งธุรกิจ Start-up สามารถลงทะเบียนและทำเอกสารที่เกี่ยวข้อง ณ หน่วยงานเดียวเท่านั้น ซึ่งหน่วยงานนี้จะรับผิดชอบการให้คำปรึกษาและจะประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดในนครฯ เพื่อแก้ไขปัญหาและดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ต่อไป

2. ด้านโครงสร้างพื้นฐาน จะลงทุนไม่เพียงแต่ในพื้นที่ทำงานเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการสร้างเครือข่ายศูนย์วิจัย กองทุนการลงทุน และหน่วยงานที่สนับสนุนธุรกิจ Start-up เพื่อสร้างความเชื่อมโยงที่ใกล้ชิดตลอดทั้งระบบนิเวศ ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายระบบนิเวศแบบครบวงจร

3. ด้านทรัพยากรมนุษย์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ พัฒนารูปแบบ “Start-up University” โดยกรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของนครโฮจิมินห์ จะจัดทำนโยบายการสนับสนุนและกำหนดการกำกับต่าง ๆ และมหาวิทยาลัยจะมีบทบาทการดำเนินงานตามนโยบายเหล่านั้น นอกจากนี้ นครฯ ยังมีแผนที่จะส่งเสริมและปรับปรุงศักยภาพการดำเนินธุรกิจ Start-up สำหรับแรงงานและชุมชนธุรกิจที่มีอยู่ผ่านการเชื่อมโยงกับสถาบันฝึกอบรม โครงการเฉพาะทาง และกลไกสนับสนุนที่ยืดหยุ่นและเป็นรูปธรรม    

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ในงานสัมมนาชี้ว่า ปัจจุบัน เวียดนามยังขาดโครงการฝึกอบรมเฉพาะทางระยะยาวสำหรับธุรกิจ Start-up โดยกิจกรรมส่วนใหญ่เป็นการฝึกอบรมระยะสั้นในมหาวิทยาลัยเท่านั้น ในขณะที่แรงงานที่ได้รับการฝึกอบรมในระยะยาวและจริงจังยังคงมีจำกัดมาก โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว อาทิ สหรัฐอเมริกา หรือสิงคโปร์ ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ได้เสนอให้รัฐบาลสนับสนุนทุนการศึกษาแก่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อเปิดโครงการฝึกอบรมเฉพาะทางระดับนานาชาติสำหรับธุรกิจ Start-up ด้านนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ โดยมีข้อกำหนดให้ผู้รับทุนต้องประกอบธุรกิจในเวียดนามหลังจบการศึกษา เพื่อสร้างระบบนิเวศที่มั่นคงและยั่งยืน

* * * * * *

ที่มา: สำนักข่าว (1) Sai Gon Giai Phong เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568

https://www.sggp.org.vn/de-xuat-chinh-sach-mot-cua-ho-tro-khoi-nghiep-doi-moi-sang-tao-post789020.html

(2) Tuoi Tre เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568

https://tuoitre.vn/de-xuat-co-che-mot-cua-cho-khoi-nghiep-doi-moi-sang-tao-tai-tp-hcm-20250403124553306.htm

ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง



ดูข่าวทั้งหมด

THAIBIZ VIETNAM

THAILAND BUSINESS INFORMATION CENTER

ยอดผู้เข้าชม

322

กำลังเข้าชมขณะนี้

365490

เข้าชมทั้งหมด