นาง Nguyen Thi Hong ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติเวียดนาม (SBV) เปิดเผยว่า SBV เตรียมดำเนินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 120 ล้านล้านด่ง (5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อให้ผู้ประกอบการด้านอสังหาฯ และบุคคลทั่วไปที่ประสงค์ซื้อบ้านสามารถกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ร้อยละ 1.5 ถึงร้อยละ 2 โดยหากธนาคารที่เข้าร่วมโครงการประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง SBV พร้อมที่จะจัดหาเงินทุนก้อนใหม่เพื่อสนับสนุนการดำเนินการต่อไป
ในช่วงที่ผ่านมา สินเชื่อเงินกู้สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์มีการเติบโตค่อนข้างสูง โดยในปี 2565 สินเชื่อโดยรวมของเศรษฐกิจเวียดนามเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.2 ในขณะที่สินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.2 ขณะเดียวกันสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21.6 ของสินเชื่อคงค้างทั้งหมด ด้วยมูลค่า 2.58 พันล้านล้านด่ง (1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยมากกว่าร้อยละ 60 เป็นสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในกลุ่มที่อยู่อาศัยที่มีมูลค่าสูง
ทั้งนี้ ร้อยละ 70 ของเงินทุนที่ใช้ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2565 มาจากการกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ ในขณะที่ร้อยละ 30 มาจากช่องทางอื่น ๆ อาทิ การออกตราสารหนี้หุ้นกู้ (corporate bond) โดยผู้ว่าการฯ กล่าวว่า การออกตราสารหนี้เป็นการระดมเงินทุนระยะกลางและระยะยาวเพื่อลดการพึ่งพาระบบธนาคารที่กำลังประสบปัญหา เนื่องจากเงินทุนของธนาคารกว่าร้อยละ 80 เป็นเงินทุนระยะสั้น จึงจำเป็นต้องมีแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่ออำนวยความสะดวกในการระดมทุนสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ จากเหตุการณ์การจับกุมนาย Van Thinh Phat ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของธนาคาร SCB ซึ่งนำไปสู่การแห่ถอนเงินจากธนาคารเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ต้องให้ความสำคัญกับการดูแลสภาพคล่อง และต้องปรับโครงสร้างแหล่งเงินทุนเพื่อให้บริการสินเชื่อแก่ภาคอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อระยะยาว และมีมูลค่าสูง ทั้งนี้ พบว่าโครงการอสังหาริมทรัพย์ร้อยละ 70 ประสบปัญหาข้อจำกัดทางกฎหมาย ซึ่งหากได้รับการแก้ไขจะช่วยให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เข้าถึงสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ได้มากขึ้น
ผู้ว่าการฯ ยังให้ข้อมูลว่า อาคารที่อยู่อาศัยที่มีราคาที่สามารถเข้าถึงได้และที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมกำลังขาดแคลนอย่างมาก โดยจากรายงานของกระทรวงการก่อสร้างเวียดนาม พบว่า ในปี 2565 เวียดนามมีโครงการที่อยู่อาศัยทั้งหมด 682 โครงการ (301,967 อพาร์ทเมนท์) โดยเป็นโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อสังคม 150 โครงการ (19,967 อพาร์ทเมนท์) จึงจำเป็นต้องจัดหาแนวทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดนี้ เพื่อดึงดูดเงินทุนเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ทั้งนี้ ผู้ว่าการฯ ได้มอบหมายให้สถาบันสินเชื่อให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สอดคล้องกับกฎหมายต่อไป เพื่อตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง และเพื่อลดต้นทุนทางการเงินในการพัฒนาโครงการฯ
ในขณะเดียวกัน ผู้ว่าการฯ ยังตระหนักถึงความจำเป็นและความสำคัญของโครงการสินเชื่อมูลค่า 110 ล้านล้านด่ง (4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ของกระทรวงการก่อสร้างเวียดนาม ที่เสนอเพื่อสนับสนุนการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมและที่อยู่อาศัยสำหรับแรงงาน ซึ่งผู้ว่าการฯ เห็นว่าควรพิจารณาและคำนวณแหล่งที่มาของเงินทุนอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความยืดหยุ่นในการใช้นโยบายการเงินของประเทศ
ที่มา: vietnamnet วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566
