ข้อมูลจากกรมการลงทุนต่างประเทศ (Foreign Investment Agency: FIA) ระบุว่า ในห้วง 7 เดือนแรกของปี 2567 มีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้าสู่เวียดนามในโครงการใหม่จำนวนกว่า 10,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.6 และการเพิ่มการลงทุนในโครงการเดิมกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.4 ตามลำดับเมื่อเทียบกับห้วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เงินลงทุนผ่านการจัดสรรทุนและการซื้อหุ้นมีแนวโน้มลดลง โดยมีมูลค่าเพียง 2,270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 45.2 เมื่อเทียบกับห้วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เงินลงทุนผ่านการจัดสรรทุนและการซื้อหุ้นในเวียดนามมีมูลค่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญโดยในปี 2561 มีมูลค่าสูงถึง 15,470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ในปี 2566 มีมูลค่าเพียง 8,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสาเหตุจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 พร้อมความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลให้การควบรวมกิจการ (Mergers and Acquisitions: M&A) ทั่วโลกรวมทั้งเวียดนามลดลง

อย่างไรก็ดี ตามรายงานของบริษัท Savills Vietnam ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก เห็นว่า ตลาด M&A ในระยะเวลาอันใกล้นี้ของเวียดนามน่าจะมีแนวโน้มที่สดใสขึ้น ภายหลังที่บริษัทSumitomo Forestry (ญี่ปุ่น) ได้รวมหุ้นกับบริษัทKumagai Gumi Co Ltd (ญี่ปุ่น) ในการดำเนินโครงการที่อยู่อาศัย The One World 50 เฮกตาร์ในจังหวัดบิ่ญเซือง บริษัท Nishi Nippon Railroad (ญี่ปุ่น) ใช้เงิน 26 ล้านดอลลาร์เข้าซื้อหุ้นร้อยละ 50 ในโครงการ Paragon Dai Phuoc ขนาด 45.5 เฮกตาร์จากบริษัท Nam Long Group (เวียดนาม) และบริษัท Tripod Technology Corporation (ไต้หวัน) ใช้เงิน 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อซื้อที่ดินอุตสาหกรรมสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 18 เฮกตาร์ในจังหวัดบ่าเสี่ยะ-หวุงเต่า

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์หลายรายมองว่า การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ กฎหมายที่ดินปี 2567 กฎหมายว่าด้วยการเคหะปี 2566 และกฎหมายว่าด้วยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป จะช่วยส่งเสริมกิจกรรม M&A ฟื้นตัวได้มากยิ่งขึ้นด้วย

(ประมวลข้อมูลโดยศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในเวียดนาม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย)

ที่มา: สำนักข่าวท้องถิ่นวันที่ 19 สิงหาคม 2567

https://vietnamnews.vn/economy/1661319/m-a-market-waiting-for-big-deals.html