เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 จังหวัดกว๋างจิได้อนุมัติโครงการสร้างระบบสายพานลำเลียงถ่านหินจากพรมแดนเวียดนาม – สปป.ลาว ไปยังโกดังสินค้าในเขต Dakrong (จังหวัดกว๋างจิ) โครงการดังกล่าวจะใช้งบประมาณในการลงทุนกว่า 58.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีความยาวรวม 6.115 กม. ใช้พื้นที่มากกว่า 23 เฮกตาร์ สามารถลำเลียงถ่านหินได้ 30 ล้านตัน/ปี โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองความต้องการการใช้ถ่านหินในเวียดนามที่เพิ่มขึ้น และลดการพึ่งพาการใช้ทางหลวงหมายเลข 15D
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การนำเข้าถ่านหินจาก สปป.ลาว มายังเวียดนามมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่จะขนส่งผ่านด่านชายแดน La Lay (จังหวัดกว๋างจิ) และด่านชายแดน La Tay (แขวงสาละวัน ของ สปป.ลาว) โดยมีปริมาณการขนส่งถ่านหินเฉลี่ยประมาณ 4,000 ตัน/วัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 จังหวัดกว๋างจิ ได้นำเข้าถ่านหินจำนวน 2.2 ล้านตันจากสปป.ลาว ทั้งนี้ การขนส่งถ่านในปริมาณดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อสภาพโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมในบริเวณดังกล่าว
นอกจากโครงการดังกล่าว ภาคเอกชนยังแนะนำให้จังหวัดกว๋างจิสร้างสายพานลำเลียงเพิ่มอีก 2 สาย โดยเชื่อมระหว่างโครงการดังกล่าว กับท่าเรือ My Thuy (จังหวัดกว๋างจิ) และอีกสายเชื่อมพรมแดนเวียดนาม – สปป.ลาว ไปยังเหมืองถ่านหินในแขวงเซกอง (สปป.ลาว) โดยหากสำเร็จ คาดว่าจะสร้างระบบสายพานลำเลียงที่มีความยาวรวม 160 กม. เพื่อขนถ่ายถ่านหินจาก สปป.ลาวไปยังจังหวัดต่างๆ ของเวียดนาม รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน
(ประมวลข้อมูลโดยศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในเวียดนาม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย)
ที่มา: Tuoi Tre News วันที่ 3 กรกฎาคม 2567
