
เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2568 ตามข้อมูลของ AirVisual รายงานว่า กรุงฮานอยมีหมอกควันพิษปกคลุมหนาและขึ้นอันดับหนึ่งเมืองใหญ่ที่มีมลพิษปกคลุมมากที่สุดในโลกในวันดังกล่าว โดยสามารถตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ได้สูงถึง 266 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ถึง 15 เท่า
ปัจจุบัน เวียดนามเป็นศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย อย่างไรก็ดี ปัญหามลพิษ PM2.5 เป็นปัญหาใหญ่ โดยกรุงฮานอยได้รับการจัดอันดับเป็นเมืองใหญ่ที่มีมลพิษทางอากาศเลวร้ายรุนแรงในหลายโอกาส มลพิษดังกล่าวเกิดจากการปล่อยควันพิษจากการจราจร การเผาขยะและกิจกรรมของภาคอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนตามมา โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
ในห้วงที่ผ่านมา รัฐบาลเวียดนามพยายามผลักดันมาตรการต่าง ๆ เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นควัน โดยในการประชุมกับกระทรวงคมนาคมเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2568 นาย Tran Hong Ha รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันมาให้ความสำคัญกับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มมากขึ้นเพื่อลดการปล่อยมลพิษจากรถสันดาปโดยกรุงฮานอยจะเร่งพัฒนาระบบขนส่งภายในเมืองเพื่อรองรับผู้โดยสาร และจะกำหนดให้รถแท็กซี่ร้อยละ 100 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2573
(ประมวลข้อมูลโดยศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในเวียดนาม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย)
ที่มา: สำนักข่าวท้องถิ่นวันที่ 9 มกราคม 2568
https://www.sggp.org.vn/ha-noi-trong-top-3-thanh-pho-o-nhiem-khong-khi-nhat-the-gioi-post776506.html