ในปี 2562 มีจำนวนเงินทุนไหลเข้าสู่บริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีในเวียดนามคิดเป็นร้อยละ 18 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมากกว่าการลงทุนด้านเดียวกันในสิงคโปร์ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 17 ของภูมิภาค
Cento Venture ซึ่งเป็นกองทุนร่วมลงทุนในสิงคโปร์ได้รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์การลงทุนด้านเทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2562 ระบุว่า การลงทุนในบริษัทด้านเทคโนโลยีภายในภูมิภาคลดลงร้อยละ 36 เมื่อเทียบกับปี 2561 จาก 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเป็น 7.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ดึงดูดนักลงทุนด้านเทคโนโลยีจำนวนมาก ถึงแม้มูลค่าการลงทุนจะลดลง ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากการลงทุนมูลค่าสูงมีน้อยลงแต่กลับพบว่าการลงทุนมูลค่าที่น้อยกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วโดยมีมูลค่ารวมกว่า 2.4 พันล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่มีมูลค่าเพียง 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าจำนวนข้อตกลงที่มีมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐมีสัดส่วนน้อยลงคิดเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนข้อตกลงทั้งหมดในปี 2561 โดยมีมูลค่า 5.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ดี ถึงแม้การลงทุนเริ่มแรกจะมีมูลค่าต่ำ แต่เมื่อมีการระดมทุนครั้งต่อๆ ไปและเกิดสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นในภูมิภาคก็จะส่งผลให้มูลค่าทั้งหมดของการลงทุนสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจเพิ่มสูงขึ้นอีก เช่น TikiVNPay และ Sendo ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มูลค่าการลงทุนสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีในเวียดนามแซงหน้าสิงคโปร์ โดยมีสัดส่วนร้อยละ18 ของภูมิภาค ด้วยมูลค่าสูงถึง 741 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับปี 2561 ซึ่งมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 4 ด้วยมีมูลค่าเพียง 287 ล้านดอลลาร์สหรัฐอนึ่ง อินโดนีเซียยังคงเป็นประเทศที่ดึงดูดการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่สูงที่สุดในภูมิภาค แต่คาดว่าสัดส่วนจะลดลงเป็นร้อยละ 59 ในปี 2562
นอกจากนี้ สตาร์ทอัพขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ Grab และ Gojek ได้รายงานผลการระดมทุนรอบล่าสุดซึ่งต่ำกว่าปีก่อนหน้า โดยในช่วงปี 2561 – 2562 Grab สามารถดึงดูดการลงทุนได้ 5.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและ Gojek 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอย่างไรก็ดี สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีหลายรายในภูมิภาคประสบความสำเร็จในการระดมทุนเพิ่มขึ้น เช่น Traveloka (420 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) VNPay (300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) E-Logistics (150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และบริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์ Advance.ai (80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยสาขาที่ดึงดูดการลงทุนมากที่สุดคือ อีคอมเมิร์ซ ในขณะที่สาขาด้านบริการด้านการเงิน การชำระเงิน และการท่องเที่ยวโลจิสติกส์ สุขภาพ และการศึกษาก็ดึงดูดการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ที่มา: VNExpress วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563