
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 มหาวิทยาลัยแห่งชาตินครโฮจิมินห์ (Vietnam National University, Ho Chi Minh City: VNU-HCM) ได้จัดงานสัมมนาในหัวข้อ “เทคโนโลยีการบรรจุภัณฑ์และการทดสอบขั้นสูง: โอกาสสำหรับเวียดนาม” โดยในงานดังกล่าว นาย Tran Kim Chung ประธานบริษัท CT Group[1] เปิดเผยว่า บริษัทฯ กำลังพัฒนาโรงงาน 3 แห่งในเวียดนามที่เชี่ยวชาญด้านการประกอบ การทดสอบ และการบรรจุเซมิคอนดักเตอร์ ดังนี้
(1) โรงงานแรกตั้งอยู่ใกล้เขตมหาวิทยาลัยแห่งชาตินครโฮจิมินห์ ระหว่างเมือง Thu Duc นครโฮจิมินห์ และเมือง Di An จังหวัด Binh Duong โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นในปี 2568 โรงงานนี้จะสนับสนุนทั้งการผลิตและการวิจัยเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อให้นักศึกษาและอาจารย์ได้มีประสบการณ์จริง
(2) หากได้รับการสนับสนุนจาก Saigon Hi-Tech Park (SHTP) บริษัทฯ มีแผนจะจัดตั้งโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์แห่งที่ 2 ในนครโฮจิมินห์ภายในปี 2569
(3) มีแผนจะเปิดโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มอีก 1 แห่งในภาคเหนือของเวียดนาม ภายในปี 2570
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) เซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่ง ในเขต Tan Binh นครโฮจิมินห์ และกรุงฮานอย
ทั้งนี้ VNU-HCM กำลังพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมเฉพาะทางด้านเซมิคอนดักเตอร์และส่งเสริมความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและภาคธุรกิจต่างประเทศ ในขณะเดียวกัน นครโฮจิมินห์กำลังดำเนินกลยุทธ์การพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของเวียดนามจนถึงปี ค.ศ. 2030 โดยมีวิสัยทัศน์จนถึงปี ค.ศ. 2050[2] และโครงการการพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จนถึงปี ค.ศ. 2030 โดยมีวิสัยทัศน์จนถึงปี ค.ศ. 2050[3] มุ่งหวังที่จะดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และฝึกอบรมบุคลากรที่มีทักษะ เพื่อก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีชั้นนำในภูมิภาค
ในการสัมมนาครั้งนี้ ยังมีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง VNU-HCM บริษัท CT Group และมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหมิงซิน ไต้หวัน (Taiwan’s Minghsin University of Science and Technology) เพื่อเป็นการปูทางในการส่งเสริมการวิจัยร่วมกันและการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในอนาคต
* * * * * *
ที่มา: สำนักข่าว Tuoi Tre เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568
[1] มีบริษัทสมาชิกทั้งหมด 68 บริษัท ซึ่งดำเนินการอยู่ใน 12 สาขาอุตสาหกรรม (อาทิ อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก การก่อสร้าง การลงทุนทางการเงิน การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เป็นต้น) และมีสำนักงานอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก
[2] ตามคำสั่งเลขที่ 1018/QD-TTg ของนยกรัฐมนตรี ลงวันที่ 21 กันยายน 2567
[3] ตามคำสั่งเลขที่ 1017/QD-TTg ของนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 21 กันยายน 2567