ในขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่กลับมีการลงทุนในที่ดินสำหรับเกษตรกรรมมากขึ้นเนื่องจากประชาชนต้องการกลับไปใช้ชีวิตที่ใกล้ชิดธรรมชาติและสภาพแวดล้อมในชนบทมากขึ้น
บริษัทตัวแทนซื้อขายที่ดินในนครโฮจิมินห์ระบุว่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมบริเวณจังหวัดทางตอนใต้ของเวียดนามมีราคาเพิ่มสูงขึ้นถึง 2-3 เท่า เนื่องจากประชาชนจำนวนมากมีแนวโน้มย้ายถิ่นฐานออกจากเมืองใหญ่ไปยังชนบทมากขึ้นตั้งแต่ปี 2562 และสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ยิ่งเป็นปัจจัยทำให้ผู้คนย้ายถิ่นที่อยู่ไปชานเมืองและชนบทมากขึ้น เนื่องจากการบังคับใช้มาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) ทำให้หลายคนแสวงหาพื้นที่สวนและพื้นที่เพาะปลูกในชนบทแทนการกักตัวอยู่ในพื้นที่คับแคบในเมืองใหญ่ ผู้อำนวยการบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Viet An Hoa กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่จะแบ่งค่าใช้จ่ายจากงบประมาณร้อยละ 5 – 10 เพื่อซื้อที่ดินสำหรับเกษตรกรรมหรือฟาร์มขนาดเล็กในจังหวัดใกล้เคียงของนครโฮจิมินห์
แหล่งข่าวระบุว่าเมืองดาลัด จังหวัดเลิมด่ง ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่มีชื่อเสียงบริเวณที่ราบสูงตอนล่างของประเทศมีความต้องการซื้อที่ดินเพื่อการเกษตรที่สูงขึ้นโดยราคาที่ดินต่อ 1 แปลงขนาด1,000 ตารางเมตร ปรับตัวสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากเดิมประมาณ 400-700 ล้านด่ง (17,000-30,000 ดอลลาร์สหรัฐ) เป็น 3-6 พันล้านด่ง (128,000-256,000 ดอลลาร์สหรัฐ) และจังหวัดด่งนายโดยมีราคาประมาณ 2-2.5 พันล้านด่ง (85,500-106,900 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อแปลง ทั้งนี้ ราคาที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงก็เพิ่มสูงขึ้น อาทิ จังหวัดเตี่ยนซาง ซึ่งพื้นที่ต่อแปลงมีราคาเพิ่มขึ้นจากเดิม 200-230 ล้านด่ง (8,500-9,800 ดอลลาร์สหรัฐ) เป็น 400 ล้าน – 1 พันล้านด่ง (17,100-42,700 ดอลลาร์สหรัฐ) รวมถึงจังหวัดล็องอานและจังหวัดด่งท้าป ก็มีราคาตั้งแต่ 400 ล้าน – 1 พันล้านด่ง (17,100-42,700 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อแปลงเช่นกัน
ที่มา: Vietnamplus วันที่ 20 เมษายน 2563
URL: https://en.vietnamplus.vn/agricultural-land-price-increases-during-covid19/171770.vnp