กระแสการเติบโตของ Co-working Space ในนครโฮจิมินห์: ภาพสะท้อนธุรกิจของชาวเวียดนามรุ่นใหม่

POST ON 30 กันยายน 2020

กระแสการเติบโตของ Co-working Space ในนครโฮจิมินห์: ภาพสะท้อนธุรกิจของชาวเวียดนามรุ่นใหม่

Co-working Space ในนครโฮจิมินห์เติบโตอย่างรวดเร็ว

Co-working Space มีต้นกำเนิดเมื่อปี 2549 ที่เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา โดยเริ่มต้นมาจากการทำงานในรูปแบบที่เรียกว่า Co-working ซึ่งหมายถึง การที่กลุ่มคนจากต่างสาขาอาชีพมารวมตัวกันและทำงานในพื้นที่เดียวกัน ต่างคนต่างทำงานของตัวเอง แต่แบ่งปันพื้นที่ในการทำงานร่วมกันต่อมาในปี 2555 ได้เริ่มแพร่หลายในหลายประเทศแถบยุโรป และบางประเทศแถบเอเชียโดยเฉพาะเวียดนามซึ่งมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ทั้งนี้ ในแต่ละปีมีชาวเวียดนามโพ้นทะเลรุ่นใหม่กลับมาแสวงหาโอกาสทางธุรกิจและจัดตั้งบริษัท Start up ในนครโฮจิมินห์กว่า 30,000 ราย ประกอบกับการที่นครโฮจิมินห์มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง GDP ขยายตัวมากกว่าร้อยละ 8-9 ต่อปี โดยในปี 2561 นครโฮจิมินห์ดึงดูดการลงทุนมากเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ มูลค่าการลงทุนกว่า 5.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงความต้องการพื้นที่สำนักงานให้เช่าในนครโฮจิมินห์ที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่พื้นที่ให้เช่ากลางเมืองมีจำกัดจึงมีราคาสูง ซึ่งภาวะดังกล่าวทำให้การทำงานรูปแบบ Co-working Space ตอบโจทย์นักธุรกิจรุ่นใหม่

จากข้อมูลพบว่าในปี 2561 ธุรกิจ Co-working Space ในนครโฮจิมินห์มีจำนวนทั้งหมด 20 แห่ง มีอัตราการเติบโตร้อยละ 44 เมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า และคาดการณ์ว่าธุรกิจนี้ จะเติบโตขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 58 ต่อปี โดยมีนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบดังกล่าว อาทิ กลุ่มบริษัท Trung Thuy Group บริษัท Open Asia และบริษัท Gaw Capitals และคาดการณ์ว่าภายในปี 2563 อสังหาริมทรัพย์ประเภท Co-working Space จะคิดเป็นร้อยละ 2 ของพื้นที่ให้เช่าสำนักงานทั้งประเทศ และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการของกลุ่ม Start up ใหม่ ๆ และพนักงานรุ่นใหม่ ซึ่งชื่นชอบการทำงานในลักษณะ Co-working Space มากกว่าการทำงานในสำนักงานแบบดั้งเดิม ตลอดจนคาดว่าจะมีการแข่งขันที่สูงขึ้นในด้านของความพร้อมในการให้บริการ ทำเลที่ตั้ง และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าของตน

Co-working Spaceในนครโฮจิมินห์เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ประกอบการเวียดนามรุ่นใหม่

ผู้ใช้บริการ Co-working Space คือ ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการทำงาน โดยส่วนมากจะเป็นกลุ่มคนที่กำลังรวมตัวกันเพื่อประกอบธุรกิจใหม่ (Start up) ผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ (Freelancer) หรือผู้ที่ทำงานในสายพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) สายงานไอที นักออกแบบกราฟฟิกและครีเอทีฟ ตลอดจนผู้ที่ทำงานประจำที่ต้องการใช้บริการอินเตอร์เน็ต นั่งทำงานนอกสถานที่เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ประชุมหรือนัดพบกับลูกค้าคนสำคัญก็สามารถใช้พื้นที่ใน Co-working Space ได้เช่นเดียวกัน

จากสถิติของผู้ใช้บริการ Co-working Space ในนครโฮจิมินห์พบว่าร้อยละ 55 เป็นกลุ่มคนจากสายอาชีพอุตสาหกรรมเทคโนโลยี อุตสากรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมบริการอาหารและเครื่องดื่ม การศึกษา การตลาดและอสังหาริมทรัพย์ โดยมีผู้ใช้บริการที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี คิดเป็นร้อยละ 91 และผู้ประกอบธุรกิจหน้าใหม่ในนครโฮจิมินห์ (Start up) คิดเป็นร้อยละ 54 ในขณะที่กลุ่มทำงานอิสระ (Freelance) ผู้ประกอบการอิสระ (Self-employee) มีเพียงร้อยละ 14

Co-working Spaceตอบโจทย์วิถีชีวิตรูปแบบใหม่ในเมืองที่มีพื้นที่สำนักงานอย่างจำกัด

การทำงานที่ร้านกาแฟที่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตสอดคล้องกับวัฒนธรรมนั่งร้านกาแฟของชาวเวียดนามแต่สถานที่ดังกล่าวมักจะมีผู้คนจำนวนมากและมีเสียงดัง ทำให้รบกวนสมาธิและไม่มีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับการทำงาน ดังนั้น Co-working Space จึงมีคุณสมบัติที่เหมาะสม เนื่องจากมีบรรยากาศการทำงานสบาย ๆ ดูเป็นกันเอง และมีการออกแบบสถานที่ที่คำนึงถึงประโยชน์ด้านการใช้งานและความสวยงาม ซึ่งทำให้Co-working Space แตกต่างจากร้านกาแฟหรือสำนักงานธรรมดา ทั้งนี้ จากการศึกษาพบว่า Co-working Space มีคุณสมบัติโดยรวมเหมือนกัน 3 ประการ ได้แก่ (1) เปิดให้เช่าพื้นที่โดยคิดค่าใช้จ่ายเป็นรายชั่วโมงและรายวันซึ่งทำให้สามารถลดความยุ่งยากและประหยัดต้นทุนโดยรวมได้มากกว่าการเช่าสำนักงานแบบรายเดือน ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มคนเล็ก ๆ เช่น กลุ่ม Start up ที่เพิ่งสร้างตัว มีกำลังคนน้อย และยังไม่มีเงินทุนมากพอสำหรับเช่าสำนักงานขนาดใหญ่ (2) มีความเหมาะสมกับการทำงานและไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบความยืดหยุ่น (3) มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันที่สามารถให้บริการได้มากกว่าสำนักงานทั่วไป ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงเครื่องพิมพ์เอกสารผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ต นอกจากนี้ ยังมีความยืดหยุ่นในด้านพื้นที่ใช้สอยที่สามารถปรับเปลี่ยนการได้ตามความต้องการของลูกค้า

Co-working Space ยอดนิยมในนครโฮจิมินห์

(1) Saigon Co – Working : 101 Cu Lao Street, Phu Nhuan District

เป็น Co – working space แห่งแรกของนครโฮจิมินห์ เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง มีผู้เชี่ยวชาญ
ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน เทคโนโลยี – ไอที ด้านกฎหมาย มีห้องอาหารและเครื่องดื่มจำหน่าย
ในราคาเป็นมิตร

(2) START Saigon : 18bis/14 Nguyen Thi Minh Khai Street, District 1

เป็นร้านที่ตกแต่งสวยงาม เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง มีพื้นที่นั่งทำงานด้านนอกอาคาร Wi-Fi และเครื่องถ่ายเอกสารผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้บริการ เหมาะสำหรับลูกค้าที่มีความสนใจในด้านอุตสาหกรรมไอทีโดยเฉพาะ

(3) Toong : 126 Nguyen Thi Minh Khai Street, District 1

มีการออกแบบสถานที่ที่โดดเด่น โดยให้ความสำคัญกับสถานที่ตามแนวคิด “Your first place after home” และเป็น Co-working Space ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก มีสาขาทั้งหมดกว่า 10 แห่งทั้งในนครโฮจิมินห์และกรุงฮานอย

(4) Pepper House : 19 Hoang Sa Street, District 1

สามารถมองเห็นทิวทัศน์ในตัวเมือง ใกล้สวนสัตว์ เหมาะกับนักธุรกิจต่างชาติที่ต้องการความสะดวกสบาย
ในการทำธุรกิจหรือลงทุนในประเทศเวียดนาม และผู้ที่ไม่ชอบทำงานอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแบบเดิมๆ

(5) Dreamplex : Level 9 – 10 – 11, 21 Nguyen Trung Ngan Street, District 1

มีจุดให้คำปรึกษาด้านการลงทุนสำหรับผู้สนใจทำธุรกิจในเวียดนามเป็นศูนย์การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางด้าน
การทำธุรกิจและสาขาต่าง ๆ โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะจากทั่วโลกและมีห้องประชุมแบบส่วนตัวคอยให้บริการ เหมาะสำหรับผู้ที่ทำหรือคิดจะทำธุรกิจ Start up

(6) We Work Co-Working Space : E. Town Central, 11 Doan Van Bo Street, District 4

แฟรนไชส์ Co-Working Space ชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา มีสาขาอยู่ทั่วโลก มีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี
คอยให้คำปรึกษา มีอาหารและเครื่องดื่มคอยให้บริการ และเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง

ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในนครโฮจิมินห์

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์

ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง



ดูบทความทั้งหมด

THAIBIZ VIETNAM

THAILAND BUSINESS INFORMATION CENTER

ยอดผู้เข้าชม

1

กำลังเข้าชมขณะนี้

195423

เข้าชมทั้งหมด