เวียดนามมุ่งพัฒนาภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ

POST ON 2 มีนาคม 2021

เวียดนามมุ่งพัฒนาภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ

“ทันโลก” กับศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในเวียดนาม
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย

เวียดนามมุ่งพัฒนาภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ

(ความเดิมตอนที่แล้ว) เวียดนามดำเนินนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลควบคู่ไปกับการคิดค้นเทคโนโลยีและนวัตกรรมพร้อมกันทั้งองคาพยพเพื่อเป็นกลกไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนวิสาหกิจเริ่มต้น (start-up) การท่องเที่ยว พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

บทความตอนนี้จะสะท้อนถึงความพยายามของรัฐบาลเวียดนามที่จะปรับจุดอ่อน โดยเสริมสร้างขีดความสามารถของภาคเอกชนและแรงงานที่มีจำนวนมากในประเทศ ให้เป็นจุดแข็งและเป็นปัจจัยที่จะดึงดูดการค้าการลงทุนจากต่างประเทศได้อย่างไร ในขณะเดียวกัน หลายหลายประเทศที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอาจต้องหันกลับมามองว่า หากไม่นับปัจจัยเรื่องแรงงาน จะแข่งขันหรือดีดตัวให้พ้นจากประเทศดาวรุ่งพุ่งแรงอย่างเวียดนามได้อย่างไร ???

เวียดนามเป็นหนึ่งในพื้นที่การลงทุนที่นักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกกำลังจับตา เนื่องจากปัจจัยความมั่นคงทางการเมือง การมีแรงงานราคาถูกซึ่งได้รับการอบรมให้มีทักษะสูงขึ้นเพื่อให้สามารถควบคุมเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งเป็นตลาดที่มีประชากรเกือบ 100 ล้านคน ประชากรส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นทั้งแรงงานและผู้บริโภคที่มีความต้องการซื้อสินค้า/ผลิตภัณฑ์ แม้มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก แต่เวียดนามยังคงเนื้อหอม เมื่อปี 2563 สามารถดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศได้กว่า 28,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนของการลงทุนในเวียดนาม คือ ภาคธุรกิจภายในประเทศที่ยังไม่เข้มแข็ง โดยกว่าร้อยละ 90 เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มีทุนต่ำ จึงไม่สามารถครอบครองเทคโนโลยีการผลิตระดับสูงได้ ส่งผลให้อุตสาหกรรมสนับสนุนภายในประเทศอ่อนแอ และยังไม่สามารถเชื่อมโยงกับระบบการผลิตขนาดใหญ่จากต่างประเทศและเข้าร่วมในห่วงโซ่มูลค่าโลกได้มากนัก

ต่อกรณีดังกล่าว สำนักข่าว Sai Gon Times วิเคราะห์ว่า ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของเวียดนาม ได้แก่ อุตสาหกรรมสนับสนุนไม่สามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนต่างชาติ การป้องกันผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการลงทุนต่างชาติยังไม่ดีเท่าที่ควร การป้องกันประเทศ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และความเป็นระเบียบทางสังคมได้รับผลกระทบเชิงลบจากการลงทุนของต่างชาติ การดึงดูดการลงทุนที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงยังไม่ประสบความสำเร็จความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการภายในประเทศกับนักลงทุนต่างชาติยังไม่ใกล้ชิด อีกทั้งกฎหมายและนโยบายเกี่ยวกับการลงทุน การดำเนินธุรกิจ ที่ดิน และการก่อสร้างยังไม่สอดคล้องกัน

อุตสาหกรรมสนับสนุนถือเป็นหนึ่งในจุดอ่อนทางการลงทุนของเวียดนาม กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามรายงานว่า ปัจจุบัน เวียดนามมีผู้ผลิตส่วนประกอบและอุปกรณ์ประมาณ 1,800 ราย แต่มีผู้ประกอบการประมาณ 300 รายที่เข้าร่วมห่วงโซ่การผลิตของบริษัทข้ามชาติ ดังนั้น ความต้องการนำเข้าส่วนประกอบและอุปกรณ์สำหรับสาขาอุตสาหกรรมต่าง ๆ ยังสูงมาก ในขณะที่ความสามารถในการอุปทานวัตถุดิบจากภาคอุตสาหกรรมสนับสนุนภายในประเทศยังต่ำมาก เช่น สาขาสิ่งทอและรองเท้า มีเพียงร้อยละ 40-45 การผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีเพียงร้อยละ 15 และการผลิตและประกอบรถยนต์ มีเพียงร้อยละ 7-10 สัดส่วนการใช้วัตถุดิบที่ผลิตภายในประเทศของเวียดนามยังคงต่ำกว่าประเทศอื่น อยู่ที่เพียงร้อยละ 36 ขณะที่ในจีน ร้อยละ 66 และไทย ร้อยละ 57

เพื่อปรับจุดอ่อนและเสริมสร้างขีดความสามารถของอุตสาหกรรมสนับสนุนในประเทศ เมื่อปี 2559 รัฐบาลเวียดนามได้ออกมติที่ 35/NQ-CP ว่าด้วยการสนับสนุนผู้ประกอบการ ปรับใช้จนถึงปี 2563 ซึ่งกำหนดเป้าหมายให้ภาคธุรกิจเวียดนามมีความสามารถในการแข่งขัน ธุรกิจเอกชนมีส่วนใน GDP ร้อยละ 48-49 ผลิตภาพแรงงานเติบโตร้อยละ 5 ต่อปี และภาคธุรกิจเวียดนามมีการพัฒนาทางนวัตกรรมร้อยละ 30–35

การพัฒนาธุรกิจเอกชนเวียดนามปรากฏเด่นชัดในมติที่ 10/NQ-TW ของที่ประชุมคณะกรรมการส่วนกลางพรรคคอมมิวนิสต์ สมัยที่ 12 ครั้งที่ 5 เมื่อปี 2560 ซึ่งเป็นมติส่วนกลางพรรคฯ ฉบับแรกที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจภาคเอกชน กำหนดเป้าหมายให้ธุรกิจเอกชนเป็นผู้เล่นหลักในระบบเศรษฐกิจ ต่อมา สภาแห่งชาติเวียดนามได้ผ่านร่างกฎหมาย ที่ 04/2017/QH14 สนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยมีนโยบาย ได้แก่ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน ความช่วยเหลือด้านภาษีศุลกากร การเข้าถึงที่ดินสำหรับการผลิต การเริ่มต้นธุรกิจ การปรับใช้เทคโนโลยีพื้นฐาน การขยายตลาด การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการสนับสนุนธุรกิจ start-up

นอกจากนี้ กระทรวงการวางแผนและการลงทุนจะร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า และกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามจัดตั้งโครงการ Vietnam Innovation Network เชื่อมโยงชาวเวียดนามที่มีความรู้ความสามารถในต่างประทศให้เป็นหนึ่งในกำลังหลักของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ในช่วงที่ผ่านมา ธุรกิจเอกชนขนาดใหญ่ของเวียดนามหลายรายพัฒนาโดยนักธุรกิจเวียดนามที่เคยได้รับทุนไปศึกษาต่อในต่างประเทศหรือประกอบธุรกิจอยู่ในต่างประเทศ อาทิ Vingroup, Sun Group,  FPT, Masan และ BRG Group

อย่างไรก็ดี ในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาการค้าและการลงทุนอย่างยั่งยืน เวียดนามได้ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนแนวคิดการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ โดยพัฒนาธุรกิจภายในประเทศในสาขาและอุตสาหกรรมที่ต้องการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้ง มีแผนพัฒนาธุรกิจรายสาขาอุตสาหกรรมและรายพื้นที่เป็นรายปี และมุ่งพัฒนาธุรกิจเอกชนให้เป็นหนึ่งในกลไกสำหรับดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

โปรดติดตามบทความตอนที่ ๓  (ตอนสุดท้ายของบทความเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล) ของ BIC ที่จะมาแบ่งปันข้อมูลว่า เมื่อเวียดนามปรับนโยบายเพื่อสนับสนุนการเสริมสร้างขีดความสามารถของภาคเอกชนเวียดนามในอุตสาหกรรมสนับสนุน และมีแนวทางที่จะผลักดันให้อุตสาหกรรมเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานโลกได้อย่างไร

*   *   *   *   *

          ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในเวียดนาม
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย
19 กุมภาพันธ์ 2564

ที่มา: รวบรวมข้อมูลจากวารสาร Sai Gon Times วันที่ 16 มกราคม 2564

ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง



ดูบทความทั้งหมด

THAIBIZ VIETNAM

THAILAND BUSINESS INFORMATION CENTER

ยอดผู้เข้าชม

418

กำลังเข้าชมขณะนี้

335739

เข้าชมทั้งหมด