ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในเวียดนาม
อุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของเวียดนามตามนิยามในกฎหมาย (Decree No.52/2013/ND-CP) หมายถึง กิจกรรมที่บางส่วนหรือทั้งหมดของกิจกรรมนั้นที่เกิดขึ้นบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต เครือข่ายสื่อสาร หรือเครือข่ายแบบเปิดประเภทอื่น ดังนั้น พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงมีความหมายอย่างกว้าง คือ การดำเนินธุรกรรมและบริการต่าง ๆ ผ่านอินเตอร์เน็ต เช่น การค้าขายสินค้า การศึกษา ให้คำปรึกษา ให้ความบันเทิง ติดต่อสื่อสาร ขนส่ง สั่งอาหาร การเงิน นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ และท่องเที่ยว เป็นต้น อย่างไรก็ตามสัดส่วนของมูลค่าที่มากที่สุดยังคงมาจากการค้าขายสินค้าออนไลน์เมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ดังนั้นบทความวิเคราะห์นี้จึงมุ่งเน้นการนำเสนอข้อมูลเฉพาะการขายสินค้าออนไลน์ในประเทศเวียดนามเป็นสำคัญ
จากรายงานดิจิตัลของ We Are Social ปี 2563 ของเวียดนามมีประชากรที่ใช้อินเตอร์เน็ตเติบโตเร็วที่สุดประเทศหนึ่งในโลก ปัจจุบันมีประชากรกว่า 68.17 ล้านคนใช้อินเตอร์เน็ต คิดเป็นร้อยละ 70 ของประชากรทั้งหมด และกว่าร้อยละ 67 ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมีบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ ชาวเวียดนามใช้อินเตอร์เน็ตมากถึงวันละ 6 ชั่วโมง 30 นาที โดยใช้สื่อสังคมออนไลน์ 2 ชั่วโมง 22 นาที ดูวีดีโอ 2 ชั่วโมง 9 นาที นอกนั้นเป็นการฟังเพลงและเล่นเกม ทั้งนี้ประชากรชาวเวียดนามอยู่ในช่วงวัยรุ่นและวัยทำงานมากถึงร้อยละ 68 ทำให้เปิดรับเทคโนโลยีใหม่อย่างรวด กอปรกับการที่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการโทรคมนาคมอย่างต่อเนื่องทำให้อุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของเวียดนามเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาที่ผ่านมา
1. กฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
กฎหมายที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของเวียดนามได้เริ่มมีการบังคับใช้ครั้งแรกในช่วงปี 2556 และถือเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญที่สุดมาจนถึงปัจจุบัน โดยช่วงปี 2559 – 2563 นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้มีคำสั่งหมายเลข 1563/QD-TTg เกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญให้อุตสาหกรรมมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายหลัก 4 ประการ ได้แก่
- พัฒนาข้อกำหนดกฎหมายพื้นฐานที่เกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น กฎหมายบริหารภาษี ปี 2019 (พ.ศ. 2562), ข้อกำหนดเกี่ยวกับกิจกรรมที่เกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าที่เกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้ประกอบการต่างชาติ หรือที่มีทุนจากต่างชาติ (Decree No. 09/2018/ND-CP) และข้อกำหนดเกี่ยวกับธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ด้านการเงิน (Decree No. 165/2018/ND-CP) เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในด้านการชำระเงิน และโลจิสติกส์สำหรับอุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
- พัฒนาตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
- สร้างความสามารถในการบริหารจัดการกิจกรรมที่เกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยจัดทำระบบกลางในการบริหารจัดการกิจกรรมที่เกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และแต่ละจังหวัด/นครจัดทำแผนเฉพาะในการดำเนินนโยบายส่วนท้องถิ่น
- สนับสนุนการใช้บริการรัฐผ่านระบบอินเตอร์เน็ต (E-Government)
ปัจจุบัน รัฐบาลเวียดนามได้มีลงมติแผนพัฒนาอุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ปี 2564 – 2568 (คำสั่งนายกรัฐมนตรีหมายเลข 645/2020/QD-TTg) ซึ่งจะมีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านกฎหมายและนโยบายในอนาคตอันใกล้ โดยมุ่งเป้าหมายปี 2568 มีผู้ใช้บริการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่น้อยว่าร้อยละ 55 ของประชากรทั้งหมด และมีมูลค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 600 เหรียญสหรัฐฯ ต่อคนต่อปี ทั้งนี้ มูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในเวียดนามคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10 ของมูลค่าค้าปลีกและบริการของทั้งประเทศ มีอัตราการเติบโตร้อยละ 25 ต่อปี โดยรัฐบาลเวียดนามมีแผนยุทธศาสตร์ 5 ประการ ได้แก่
- สนับสนุนให้มีการใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในธุรกิจและสังคมอย่างกว้างขวาง
- ลดช่องว่างการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างนครใหญ่และจังหวัดต่าง ๆ
- พัฒนาตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน
- ขยายโอกาสทางการค้าให้กับสินค้าเวียดนามทั้งในและต่างประเทศผ่านธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงพัฒนาธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ
- ก้าวสู่การเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ก้าวหน้ามากที่สุด 3 อันดับแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนี้ เวียดนามยังมีกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น
- Decision No.431/2020/Qd-TTg เกี่ยวกับโครงการบริหารจัดการกิจกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับสินค้านำเข้าส่งออก
- Decree No.45/2020/ND-CP เกี่ยวกับธุรกิจและเงื่อนไขทำธุรกิจขนส่งด้วยรถยนต์ (สำหรับแอปพลิเคชัน เช่น Grab, Be, Gojek โดยเฉพาะ)
- Decree No.165/2018/ND-CP ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในกิจกรรมด้านการเงิน
- Decree No.150/2018/ND-CP แก้ไขข้อกำหนดที่เกี่ยวกับเงื่อนไขลงทุนธุรกิจและขั้นตอนการดำเนินงานในอุตสาหกรรมข้อมูลและการสื่อสาร
- Decree No.80/2016/ND-CP แก้ไข เพิ่มเติมข้อกำหนดที่เกี่ยวกับการชำระเงินโดยไม่ใช้เงินสด
2. ภาพรวมอุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เวียดนาม
จากข้อมูลสถิติของ We Are Social ปี 2563 พบว่าเว็บไซต์ที่ชาวเวียดนามนิยมเข้าชมมากที่สุด แบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ คือ เว็บไซต์ค้นหาข้อมูล (Google) เว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์ (Facebook.com, Youtube.com, Zalo.me) เว็บไซต์ข่าวสาร (Vnexpress.net, Zing.vn, 24h.com.vn, vtv.vn, Dantri.com.vn) และเว็บไซต์แพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ (Shopee.vn, Tiki.vn, Lazada.vn) นอกจากนี้อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยปี 2563 มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่าร้อยละ 64
ข้อมูลจาก Statista ปี 2563 คาดการณ์ว่าธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เฉพาะส่วนซื้อขายสินค้าออนไลน์ของเวียดนามมีมูลค่าประมาณ 6.02 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแบ่งเป็นสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์และมีเดียมากที่สุด รองลงมา คือ สินค้าประเภทแฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าตกแต่งบ้าน อาหารและสินค้าเพื่อสุขภาพ และสินค้าที่เกี่ยวกับกิจกรรมยามว่างหรือของเล่น โดยจากการคาดการณ์ปี 2567 มูลค่าการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จะมีมูลค่าประมาณ 8,508 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีอัตราการเติบโตระหว่างปี 2562 – 2563 ร้อยละ 36 ส่วนช่วงปี 2564 – 2567 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (4 ปี) ร้อยละ 9
ภาพที่ 1 มูลค่าค้าขายสินค้าออนไลน์ประเภทต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 2562 – 2567

ที่มา: Statista (2563)
โดยมีผู้ที่ซื้อสินค้าและบริการผ่านบริการอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ร้อยละ 45.6 จากประชากรทั้งหมด คิดเป็นรายจ่ายโดยเฉลี่ยต่อปี 132.05 เหรียญสหรัฐฯต่อคน
ภาพที่ 2 อัตราส่วนผู้ใช้บริการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และรายจ่ายเฉลี่ยต่อคนต่อปี ตั้งแต่ปี 2562 – 2567

ที่มา: Statista (2563)
จากรายงานการสำรวจของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามเมื่อปี 2562 พบว่าชาวเวียดนามซื้อสินค้าออนไลน์จากแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้า (Marketplace Website) สื่อสังคมออนไลน์ และแอปพลิเคชั่นเป็นหลัก ผู้บริโภคยังใช้การชำระเงินเมื่อรับสินค้า (Cash-on-Delivery:COD) เป็นส่วนใหญ่ บางส่วนชำระเงินผ่านธนาคาร บัตรเครดิต และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ และจากรายงานของ Iprice ปี 2562 พบว่าระยะเวลาในการจัดส่งสินค้าของเวียดนามอยู่ที่ 5.6 วัน ถือว่าช้าเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอินโดนีเซีย (3.8 วัน) สิงคโปร์ (3.3 วัน) และไทย (2.5 วัน)
ทั้งนี้ ความสามารถในการบริหารคลังสินค้าและจัดส่งจนถึงมือผู้บริโภคให้เร็วที่สุดเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในเวียดนาม โดยจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคต่อธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ยังได้ข้อสรุปว่าผู้บริโภคเวียดนามกว่าร้อยละ 60 ไม่ซื้อสินค้าผ่านธุรกิจกรรมอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เนื่องจากซื้อที่ร้านค้าโดยตรงสะดวกกว่าเพราะได้สินค้าบริการทันทีและสามารถตรวจสอบคุณภาพสินค้าก่อนชำระเงิน ส่วนผู้บริโภคไม่ซื้อของออนไลน์เนื่องจาก ไม่มั่นใจคุณภาพสินค้า ไม่เชื่อถือร้านค้า ไม่เชื่อถือระบบเก็บข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น ดังนั้นธุรกรรมออนไลน์ต่าง ๆ ในด้านการซื้อและขายสินค้าจึงเป็นการผ่านแพลตฟอร์ม และร้านค้าของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงและมีนโยบายด้านการคืนหรือเปลี่ยนสินค้าที่ชัดเจน นอกจากนี้ ล่าสุดสภาแห่งชาติเวียดนามได้ผ่านร่างกฎหมายจัดการภาษี (กฎหมายจัดการภาษี เลขที่ 38/2019/QH14) โดยมีข้อกำหนดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีองค์กรหรือบุคคลที่มีการดำเนินธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และมีรายได้ในเวียดนาม มีหน้าที่ชำระภาษีตามกฎหมาย แม้ว่าจะไม่ได้มีการตั้งสำนักงานในประเทศเวียดนามก็ตาม ทั้งนี้กระทรวงการคลังเวียดนามจะมีคำสั่งกระทรวงฯ ระบุขั้นตอนการจดทะเบียนหมายเลขภาษีและชำระภาษีในลำดับถัดไป
จากตารางที่ 1 ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในด้านการค้าปลีกรายใหญ่ ได้แก่ Shopee, Tiki และ Lazada เป็นธุรกิจแพลตฟอร์มค้าขายสินค้าออนไลน์ที่มีการลงทุนจากต่างประเทศซึ่งชาวเวียดนามนิยมซื้อขายสินค้าทั้งผ่านเว็บไซต์และผ่านแอปพลิเคชัน (Application) บนโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ เว็บไซต์และแอปพลิเคชันยอดนิยมอื่น ยังคงมุ่งเน้นการขายสินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก
ตารางที่ 1 แพลตฟอร์มและร้านค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของเวียดนาม 10 อันดับแรก (ไตรมาส 2 ปี 2563)
ที่ | ชื่อธุรกิจ | บริษัท/ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ | ประเภทธุรกิจ | ประเภทสินค้า | จำนวนผู้เข้าชมในแต่ละเดือน (ล้านครั้ง) | สมาชิกแฟนเพจเฟซบุ๊ค (ล้านคน) |
1 | Shopee.vn | SEA Group (สิงคโปร์) | แพลตฟอร์ม | หลากหลาย | 52.49 | 17.84 |
2 | The Gioi Di Dong | Digiworld Plc. | ช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าของบริษัท (มีหน้าร้าน) | อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ | 25.10 | 3.52 |
3 | Tiki.vn | VNG JD.com (จีน) | แพลตฟอร์ม | หลากหลาย | 21.15 | 2.93 |
4 | Lazada.vn | Alibaba Group (จีน) | แพลตฟอร์ม | หลากหลาย | 18.52 | 29.88 |
5 | Dienmayxanh.vn | Digiworld Plc. | ช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าของบริษัท (มีหน้าร้าน) | เครื่องใช้ไฟฟ้า | 15.31 | 1.61 |
6 | Sendo.vn | FPT Plc., SBI Group Kasikorn Bank, Softbank Venture Asia และอื่น ๆ | แพลตฟอร์ม | หลากหลาย | 14.55 | 2.90 |
7 | FPT Shop | FPT Plc. | ช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าของบริษัท (มีหน้าร้าน) | อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ | 7.75 | 2.49 |
8 | Dien May Cho Lon | Cao Phong Ltd. | ช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าของบริษัท (มีหน้าร้าน) | เครื่องใช้ไฟฟ้า | 5.69 | 0.64 |
9 | CellphoneS | Minh Nguyet Commercial and Technical Services Ltd. | ช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าของบริษัท (มีหน้าร้าน) | อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ | 4.19 | 0.64 |
10 | Hoang Ha Mobile | Hoang Ha companies | ช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าของบริษัท (มีหน้าร้าน) | อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ | 3.80 | 0.63 |
ที่มา: Iprice.vn (2563)
3. โอกาสและอุปสรรคในการลงทุนในอุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของเวียดนาม
โอกาส | อุปสรรค |
1. ประชากรชาวเวียดนามมีประชากรกว่าร้อยละ 60 อยู่ในวัยทำงาน ที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น และปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว 2. เทคโนโลยีสื่อสารและอินเตอร์เน็ตของเวียดนามพัฒนาอย่างรวดเร็ว ประชาชนชาวเวียดนามมีอัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตสูง ทำให้บริการด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง 3. การเปิดเสรีการค้ากับสหภาพยุโรป (EVFTA), การตกลงทางการค้าที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) จะทำให้อุปสงค์ในด้านการค้าข้ามพรมแดนเพิ่มมากขึ้น และเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องในอนาคตอันใกล้ ทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสในการลงทุนเพิ่มมากขึ้น 5. อุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันยังมุ่งเน้นการแข่งขันด้านราคาและความสามารถในการขนส่งสินค้าอย่างรวดเร็ว จึงมีโอกาสการลงทุนบริการอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น เทคโนโลยีในการจัดการคลังสินค้า การกระจายสินค้า การวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภค การชำระเงินด้วนระบบออนไลน์ เป็นต้น ทั้งนี้บริการต่าง ๆ ที่เป็นนวัตกรรมในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถขอใช้สิทธิประโยชน์ในด้านภาษีและเงินทุนจากนโยบายส่งเสริมการลงทุนของเวียดนามได้อีกด้วย | 1. โครงสร้างในด้านกฎหมายที่ทับซ้อนกับกฎหมายอื่นและขาดความชัดเจนในการใช้กฎหมาย โดยกฎหมายที่สำคัญที่สุด คือ Decree No. 52/2013/ND-CP ซึ่งมีผลบังคับใช้งานเมื่อปี 2553 ซึ่งบางส่วนอยู่ในสถานะไม่มีผลบังคับใช้แล้ว รวมถึงทับซ้อนกับกฎหมายอื่น เช่น ข้อกำหนดที่เกี่ยวกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์บนเว็บไซต์ และแพลตฟอร์มต่าง ๆ มีความทับซ้อนเรื่องใบอนุญาตเมื่อพิจารณาตามข้อกำหนดของกฎหมายโฆษณา เป็นต้น 2. ค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์สูง และใช้เวลานานเนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของเวียดนามยังไม่ครอบคลุมตลอดพื้นที่ 3. ขนาดของตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มีขนาดเล็ก แม้ว่าจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการที่ผู้บริโภคไม่ไว้วางใจระบบจัดการข้อมูลส่วนบุคคล คุณภาพสินค้าและบริการ รวมถึงความปลอดภัยในการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ 4. ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังเข้าไม่ถึงระบบการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้นอกจากจะเป็นเทคโนโลยีที่เพิ่งเริ่มใช้ในประเทศเวียดนามแล้ว ยังมีอุปสรรคด้านข้อกำหนดกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 5. ธุรกิจค้าปลีกและบริการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์อื่น มีข้อกำหนดปลีกย่อย รวมถึงใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องอีกหลายฉบับ ทำให้การลงทุนของนักลงทุนจากต่างชาติต้องใช้เวลาและมีต้นทุนในการเข้าสู่ตลาดสูง |
อุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของเวียดนามเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และได้รับความสนใจลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ทำให้การทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าบริการ และชำระเงินสะดวกมากขึ้น แม้ว่าจะมีอุปสรรคในด้านกฎหมายและโครงสร้างพื้นฐานในการจัดส่งสินค้า แต่มีการเปิดโอกาสให้ธุรกิจที่มีนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหาเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง เช่น ธุรกิจบริการจัดการคลังสินค้าเพื่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้บริการ ธุรกิจที่เกี่ยวกับการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ เป็นต้น
อ้างอิง:
ASL Law Firm (2562), E-Commerce Platform – Road To Success In Vietnam And Cross-Border Trading, retrieved from https://aslgate.com/e-commerce-platform-road-success-vietnam-cross-border-trading/
Statista (2563), Ecommerce Vietnam 2020, retrieved from https://www.statista.com/outlook/243/127/ecommerce/vietnam
Bộ Công Thương (2563), Thương mại điện tử Việt Nam 2020
Parcel Perform & iPrice Group (2562), Consumers are still not happy with their e-commerce delivery experience, a new survey by Parcel Perform and iPrice Group reveals, retrieved from https://iprice.my/trends/insights/consumers-are-still-not-happy-with-their-e-commerce-delivery-experience-a-new-survey-by-parcel-perform-and-iprice-group-reveals/
Vietnam Insider (2563), What e-commerce marketplaces in Vietnam look like in 2020?, retrieved from https://vietnaminsider.vn/what-e-commerce-marketplaces-in-vietnam-look-like-in-2020/
We Are Social (2563), Digital 2020 : Vietnam, retrieved from https://datareportal.com/reports/digital-2020-vietnam
Iprice Vietnam (2563), Bản đồ thương mại điện tử Việt Nam, retrieved from https://iprice.vn/insights/mapofecommerce/
Báo Đấu Thầu (2563), Khai thuế, nộp thuế với thương mại điện tử như thế nào? ,retrieved from https://baodauthau.vn/khai-thue-nop-thue-voi-thuong-mai-dien-tu-nhu-the-nao-post94757.html