จากข้อมูลของบริษัท FiinGroup[1] พบว่า แรงกดดันจากหนี้หุ้นกู้ (corporate bond) ที่จะครบกำหนดการชำระคืนในปี 2567 อยู่ในระดับสูง โดยมีมูลค่าถึง 376.5 ล้านล้านด่ง (1.55 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นสาขาที่ได้รับแรงกดดันสูงที่สุด ด้วยมูลค่ารวมประมาณ 155 ล้านล้านด่ง (6.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากได้ปริมาณการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง การขยายตัวของสินเชื่อที่ชะลอลง และกระแสเงินสดของผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง จึงคาดว่าผู้ออกหุ้นกู้หลายรายจะไม่สามารถชำระหนี้ตามกำหนดได้ โดยอัตราการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทภาคอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 22.7 (ยังไม่รวมหุ้นกู้ที่อยู่ระหว่างการเจรจาขยายกำหนดเวลาการชำระหนี้ตามนโยบายรัฐบาลเวียดนาม)
อย่างไรก็ดี บริษัท FiinGroup คาดการณ์ว่า ในปี 2567 บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งจะยังคงสามารถออกหุ้นกู้ได้ เนื่องจากรัฐบาลเวียดนามได้ออกมาตรการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในวงกว้าง นอกจากนี้ยังพบว่า ในช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ได้เผยแพร่ข้อมูลที่โปร่งใสมากขึ้น และปฏิบัติตามกฎระเบียบมากขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลและกระทรวงการคลังเวียดนามอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายกำหนดเวลาการชำระหนี้หุ้นกู้ในวงจำกัดซึ่งเดิมขยายมาแล้ว 1 ครั้งตามกฤษฎีกาฉบับที่ 8/2023/ND-CP เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2566 ตลอดจนแนวทางอื่น ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการฟ้องร้องทางกฎหมายต่อโครงการอสังหาริมทรัพย์ และช่วยฟื้นฟูความน่าเชื่อถือของตลาดหุ้นกู้
ทั้งนี้ สมาคม Vietnam Realtor’s Association ประเมินว่ามูลค่ารวมของหุ้นกู้ออกใหม่ในปัจจุบันยังคงต่ำกว่ามูลค่ารวมของหุ้นกู้ที่กำลังจะครบกำหนดชำระ และเชื่อว่านโยบายการขยายเวลาการชำระหนี้จะช่วยเพียงขยายเวลาให้ผู้ออกหุ้นกู้ได้ปรับสภาพหนี้เท่านั้น แต่ยังไม่มีการชำระหนี้แต่อย่างใด ซึ่งยังถือว่าเป็นความท้าทายในช่วงต่อไป
ที่มา: Vietnam Net เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2566
https://vietnamnet.vn/en/experts-warn-of-pressure-from-bonds-that-are-due-in-2024-2226476.html
[1] บริษัทให้บริการข้อมูลด้านการเงินในเวียดนาม
